2015 เชฟโรเลต ครูซ แอลทีแซด ดีขึ้นแต่ไม่ถึงกับอเมซซิ่ง

หลังจากเปิดตัว 2015 เชฟโรเลต ครูซ รุ่นปรับโฉมในงานแสดงรถยนต์เมื่อต้นเดือนสิงหาคม พร้อมชูสโลแกนอเมซซิ่ง นิว ครูซ เชฟโรเลตก็ใช้เวลาอีกร่วมเดือนครึ่งกว่าจะพร้อมให้นักข่าวทำการทดสอบรุ่นนี้เป็นครั้งแรก

ออโต้สปินน์อยู่ในกลุ่มการทดสอบกลุ่มแรกสุด ซึ่งโปรแกรมก็ไม่มีอะไรมากนอกจากขับไปเส้นทางพัทยาและวนกลับมากทม. เรียกว่าเป็นทริปสั้น ๆ ที่แบ่งกันขับกันคนละไม่มากมาย แต่ก็พอที่จะรับรู้การเปลี่ยนแปลงของรถไปได้พอสมควร

รถรุ่นที่นำมาให้เราขับนั้นเป็นรุ่นท๊อปของครูซอย่างแอลทีแซด ซึ่งในการปรับโฉมครั้งล่าสุดนั้น เชฟโรเลตได้ปรับลดการทำตลาดลงเหลือเครื่องยนต์เพียงรุ่นเดียว และเหลือรุ่นย่อยเพียง 2 รุ่น โดยในรุ่นที่เอามาขับนั้นเคาะราคาจำหน่ายที่ 9.98 แสนบาท

การเปลี่ยนแปลงรูปโฉมหลัก ๆ ที่ภายนอกคือการเปลี่ยนกระจังหน้า เพิ่มขอบโคมเมียมที่ตำแหน่งต่าง ๆ ติดไฟเดย์ไทม์ ขณะที่ด้านหลังรถนั้นมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะไฟท้ายแบบสปอร์ต ที่ทีมงานของเชฟโรเลตบอกว่า แมร์รี่ บาร์ร่า (ซีอีโอจีเอ็ม) เป็นคนออกความเห็นว่าควรปรับเลยทีเดียว

เอาจริง ๆ ในเรื่องของรูปโฉมนั้น แม้จะเป็นเรื่องของใครสวยงามก็ว่าไปตามว่า แต่ผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับคนอื่น ๆ ว่าด้านหลังสวยงามสะดุดตาดี แต่ด้านหน้านั้นดูยังไม่ค่อยผ่านสักเท่าไรนัก ดู ๆ ไปแล้ว ก็ต้องบอกว่าการปรับโฉมครั้งนี้ยังไม่อเมซซิ่งสักเท่าใดนัก

ติดตั้งระบบกุญแจอัจฉริยะเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าออกห้องโดยสารและมาพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ห้องโดยสารเล่นสีทูโทนสลับดำ-น้ำตาลให้บรรยากาศที่ดูพรีเมียมขึ้น ตำแหน่งการนั่งของเบาะทุกตำแหน่งเหมาะสมกับคนที่สูงไม่มาก ส่วนพวกขายาวอาจจะต้องปรับตำแหน่งเบาะกันหน่อย

เครื่องยนต์รุ่นเดียวที่ยังทำตลาดอยู่คือเครื่องยนต์อีโคเทค 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที รองรับเชื้อเพลิงทดแทนสูงสุดถึงอี85

แม้จะใช้เครื่องยนต์เดิม แต่การเปลี่ยนแปลงหลักก็คือการปรับปรุงซอฟต์แวร์และกล่องควบคุมอีซียูใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถใช้งานได้กับเชื้อเพลิงที่หลากหลาย รวมถึงการใช้หัวฉีดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับปริมาณเอทานอลในเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ ทีมงานของเชฟโรเลตยังระบุว่าการเปลี่ยนแปลงหลักที่สำคัญก็คือการเปลี่ยนแปลงชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัสจีเอฟ6 รุ่นที่ 2 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ โดยทีมวิศวกรของเชฟโรเลตระบุว่าเกียร์ใหม่นี้ให้สัมผัสถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลมากขึ้นและตอบสนองการขับขี่ได้ดีกว่าเดิม

จากการพูดคุยกันเหมือนว่าการแก้ปัญหาหลักของระบบเกียร์จะเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเจนเนอเรชั่นแรกเป็นหลัก ในเรื่องของการระบายความร้อนและปัญหาอื่น ๆ แต่ก็ได้กลับมาซึ่งระบบเกียร์ที่มีความไหลลื่นและคล่องตัวกว่าเดิม

ในการทดสอบจริง ระบบเกียร์ของครูซนั้นให้การตอบสนองในเกียร์แรกที่กระชับฉับไวมากขึ้น แต่ก็ยังจับอาการกระตุกในยามเปลี่ยนเกียร์ได้อยู่เหมือนที่ผ่านมา การออกตัวดูคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ครูซนั้นดูน่าใช้งานมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ช่วงล่างแบบยูโรไรด์ให้การตอบสนองแบบนุ่มนวล การตอบสนองบนทางหลวงทำได้ดีทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ไม่มีอาการสั่นโคลงหรือกระแทกของตัวรถให้รำคาญใจ แต่ก็แลกมาด้วยตัวรถที่ดูไม่เฉียบคมเท่าที่ควรในการเข้าโค้ง

พวงมาลัยไฟฟ้าดูจะเบาไปสักเล็กน้อยในทุกย่านความเร็ว จริง ๆ แล้วน่าจะปรับให้หนืดขึ้นกว่านี้ในย่านความเร็วสูง ขณะที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้ก็ถือว่าเพียบพร้อมดีอยู่แล้ว ใช้งานได้อย่างครบครัน โดยเฉพาะระบบมายลิงค์พร้อมจอสัมผัส 7 นิ้วที่ตอบสนองทุกด้าน

ครูซมาพร้อมระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถลและกุญแจนิรภัยอิมโมบิไลเซอร์

ระบบความปลอดภัยแบบแพสซีฟครอบคลุมถึงตัวถังเหล็กกล้า คานนิรภัยด้านข้างที่ออกแบบมาเพื่อต้านทานแรงกระแทกพลังงานสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เชฟโรเลต ครูซ มีระดับความปลอดภัยที่เหนือชั้นไม่ได้แตกต่างจากรถยนต์ในระดับเดียวกันแม้แต่น้อย

เอาจริง ๆ ก็ถือว่าเชฟโรเลตพยายามทำให้ครูซมีความน่าใช้งานมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการปรับโฉมและการปรับปรุงสินค้าครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการตัดสินอนาคตไปว่าจะทำตลาดรุ่นต่อไปหรือเปล่า และถือเป็นรถที่เดิมพันอนาคตของเชฟโรเลตในประเทศไทยมากพอสมควร

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ลองขับเป็นระยะทางไม่ไกลมาก เรากลับไม่ได้รู้สึกถึงความอเมซซิ่งอย่างที่เชฟโรเลตพยายามบอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบหรือสมรรถนะของรถ แม้จะสอบผ่านแบบไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร้องว้าวออกมาแต่อย่างใด

แต่ก็เชื่อว่าในรถยนต์ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ก็มีกลุ่มลูกค้าของตัวเองอยู่ ซึ่งก็เชื่อว่าเชฟโรเลต ครูซใหม่นั้น น่าจะตอบสนองความหวังของลูกค้ากลุ่มนั้นได้มากกว่ารถรุ่นที่ผ่านมา เพราะหากเทียบตัวใหม่กับตัวเก่าก็ถือว่ารถคันนี้มีความน่าใช้งานมากขึ้นอย่างมาก

เหลือแค่ว่าจะสามารถดึงความมั่นใจของลูกค้ากลับมาหรือเปล่าในที่สุดเท่านั้น...

อัปเดตข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ กับเรา Autospinn

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน ได้ที่นี่

ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เช็คราคารถมือสอง ได้ที่ one2car