ฟอร์ด ประเทศไทย ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์นั่งใหม่ ที่สร้างมาตรฐานใหม่ขั้นสูง ให้แก่ วงการรถ PPV ในประเทศไทย ด้วย All New Ford Everest ที่นับได้ว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งในและต่างประเทศ
All New Ford Everest ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ได้เปิดตัวทั้งสิ้น 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ 2.2 Titanium ราคา 1,269,000 บาท , 2.2 Titanium 4x4 ราคา 1,459,000 บาท และ 3.2 Titanium+ 4x4 ราคา 1,599,000 บาท
การที่ Ford ได้ผลิต Ford Everest ใหม่ ขึ้นมาทำตลาดในประเทศไทยนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ Everest ใหม่ โดดเด่นกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน ทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มาแบบอเมริกันขนานแท้
ห้องโดยสารที่ใหญ่โตกว้างขวาง นอกจากนี้ยังจุดเด่นในด้านของการขับขี่ที่ไม่เป็นรองใคร ทั้งจากขุมพลังที่แข็งแกร่งแรงทรงพลัง รวมไปถึงระบบเทคโนโลยีการขับขี่ที่หลากหลาย ซึ่งเราจะขอพาทุกท่านไปพบกับประสบการณ์เหนือระดับกับเส้นทางใหม่ ในรุ่น 2.2 Titanium ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 3.2 Titanium+ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
Ford Everest ใหม่ รุ่น 2.2 Titanium 4x2 นับได้ว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ ผู้สนใจรถ Ford Everest ใหม่จะสามารถสัมผัสกับเทคโนโลยีของ Everest ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีหลายอย่างก็ได้ติดตั้งมาให้ เช่นเดียวกันกับรุ่นท๊อปไลน์ ได้แก่
1. ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC2 ที่พร้อมจะรับฟังคำสั่งเสียงของคุณได้ดียิ่งขึ้น เพราะมันชาญฉลาดขึ้น ใช้งานได้สะดวกง่ายดาย จากปุ่มกดที่พวงมาลัย ขณะแสดงผลผ่านหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว TFT ที่เชื่อมต่อระบบเอนเตอร์เทนเม้น ได้อย่างหลากหลายทั้ง USB, SD Card, AUX และ CD นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย Wi-fi Router ให้คุณสามารถเชื่อมต่อ Gadget อุปกรณ์ต่างๆภายในรถได้โดยง่าย หรือหากคุณมี Aircard คุณก็สามารถเสียบ Aircard ที่ช่อง USB เพื่อทำหน้าที่กระจายเป็น Wifi Hotspot ได้อีกด้วย ช่วยให้การเชื่อมต่อในโลกออนไลน์ของคุณไม่มีสะดุด พร้อม
2. เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่สำคัญของรถยนต์นั่งหรู ซึ่ง Everest ใหม่ ก็ได้ติดตั้งมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น 2.2 Titanium 4x2 คันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
3. ถุงลมนิรภัย Airbags 7 จุด ที่มาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุด ทั้งถุงลมคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยข้างที่ติดมากับที่นั่ง รวมถึงม่านถุงลม เพื่อปกป้องผู้โดยสารตอนหน้าไปจนถึงตอนหลัง นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัยปกป้องหัวเข่าผู้ขับ อีกด้วย
4. ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (EPAS with Pull Drift Compensation technology) ซึ่ง Ford Everest จะมอบประสบการณ์ในการควบคุมรถที่ยอดเยี่ยม ที่แตกต่างจากรถ PPV คันอื่นๆ ด้วยน้ำหนักเบาที่ความเร็วต่ำ ช่วยความคล่องตัวเป็นเยี่ยม และจะหนักแน่นขึ้นที่ความเร็วสูงให้การควบคุมที่มั่นคง รวมไปถึงการตอบสนองที่แม่นยำเฉียบคม ซึ่ง Ford ขึ้นชื่อในเรื่องของระบบบังคับเลี้ยวด้วยพวงมาลัยไฟฟ้ามาแต่ไหนแต่ไร
5. ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก Active Noise Cancellation ห้องโดยสารที่ดีนอกจากจะมีขนาดใหญ่โต สะดวกสบายแล้ว สิ่งที่สำคัญ ก็ คือ ความเงียบ ซึ่งจะช่วยยกระดับการเดินทางของคุณให้ดูดี และมอบความสุนทรีย์ผ่อนคลายได้อย่างเต็มเปี่ยม Everest ใหม่ ได้มีระบบช่วย ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายการตัดเสียงรบกวนในหูฟังระดับพรีเมียม โดย Everest ใหม่ นี้จะมีไมโครโฟนที่มีความไวต่อเสียง 3 ตัว เพื่อตรวจจับวัดระดับเสียง โดยจะปล่อยคลื่นเสียงในทางตรงกันข้ามมาหักล้างกันกับเสียงเครื่องยนต์ และช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ จึงช่วยให้ภายในห้องโดยสารเงียบสงบ
6. ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์ และแอมพลิฟลายเออร์ นอกจากความเงียบแล้วสิ่งที่จะช่วยมอบความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสารนั่นก็ คือ ระบบเครื่องเสียงความบันเทิง จากทีได้กล่าวไป ในเรื่องของระบบรองรับเอนเตอร์เทนเม้น ที่หลากหลายของ Everest ใหม่ แล้ว ลำโพงที่จะช่วยถ่ายทอดเสียงนั้นก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ด้วยลำโพงจำนวนมากถึง 9 ตัว พร้อมซับ และแอมพลิฟลายเออร์ ที่มีกำลังขับสูง พร้อมถ่ายทอดคุณภาพเสียงในทุกมิติ ให้ความใสคมชัด มอบโสตประสาทที่ผ่อนคลายในการเดินทาง ที่มอบให้ตั้งแต่รุ่นล่างอย่าง 2.2 Titanium คันนี้ เรียกได้ว่า คุณภาพเสียงนั้นดีเยี่ยมในระดับรถยุโรปหรูเลยทีเดียว
7. ระบบกันสะเทือนหลังแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์ ใน Ford Everest ใหม่ ใช้ช่วงล่างแบบคอยล์สปริง ที่ได้มีการปรับเซ็ทเพื่อคงคงความนุ่มนวลในการโดยสาร และระบบวัตต์ลิงค์ ที่คอยปรับระดับของช่วงล่างให้ตั้งฉากทำมุมกับพื้นถนน ซึ่งส่งให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนอย่างเต็มที่ ช่วยมอบ Grip การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมกว่ารถยนต์นั่ง PPV คันไหนๆ ที่มอบทั้งความนุ่มนวล และการยึดเกาะที่ดี แน่นเฟิร์มซับแรงเป็นเลิศ ลุยได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น
8. ระบบเทคโนโลยีช่วยความปลอดภัย ทั้ง ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation) ซึ่งตัวรถ Everest ใหม่ จะมี Gyro Sensor หากตรวจจับความผิดปกติ ระบบจะส่งแรงเบรก และลดแรงบิดเครื่องยนต์ลงอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ
9. ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย-ขวา-หลัง ให้ผู้โดยสารตอนหน้า ผู้ขับ และผู้โดยสารตอนหลังเลือกอุณหภูมิที่ตามที่ตนเองชอบได้ ซึ่งระบบแอร์อัตโนมัตินี้จะแสดงผลการควบคุมผ่านทางหน้าจอสัมผัส 8“ ได้อีกด้วย
10. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ที่ยอดเยี่ยมใช้งานง่ายเพียงกดด้วยปลายนิ้ว สามารถกดเพิ่ม, ลดความเร็วได้ตามสั่งจากปุ่มกดบนด้านขวาของพวงมาลัย
ขณะที่รุ่นท๊อปไลน์อย่าง Ford Everest 3.2 Titanium+ 4x4 นั้น จัดเต็มเพื่อคนชอบลุย รักการใช้ชีวิตแบบมีไลฟ์สไตล์การผจญภัย พร้อมเทคโนโลยีออปชั่นในแบบรถยุโรป โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะมีฟีเจอร์พื้นฐานที่พบในรุ่น 2.2 Titanium 4x2 แล้ว นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มมา ถ้าคุณซื้อรุ่น 3.2 Titanium+ 4x4 ได้แก่
1. ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ Terrain Management System (i4WD Terrain Management System) ถือเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ชาญฉลาด ใช้งานง่ายโดยการบิดหมุนปุ่มวงกลม ที่ประกอบไปด้วย 4 โหมด ให้เลือก ได้แก่
-Normal สำหรับการขับขี่ในรูปแบบปกติ แรงบิดจะถูกถ่ายลงล้อทั้ง 4 อย่างเหมาะสม เพื่อการยึดเกาะตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น และการหมุนของพวงมาลัยเป็นสำคัญ
- Snow, Mud, Grass โหมดนี้ ใช้สำหรับขับขี่บนพื้นผิวที่ลื่น ซึ่งเครื่องยนต์จะรักษารอบการขับขี่ให้ต่ำลง พร้อมเสริมการทำงาน ABS
- Sand สำหรับวิ่งบนทราย ซึ่งเครื่องยนต์จะส่งกำลังออกมาเต็มพิกัด คันเร่งที่ตอบสนองได้ฉับไว และการควบคุมพวงมาลัยที่เน้นความคล่องตัว เพื่อช่วยรักษาแรงเฉื่อยของรถเมื่อต้องขับเคลื่อนบนผิวทราย
- Rock โหมดนี้ระบบจะล๊อกที่การขับเคลื่อน 4 Low เพื่อใช้เกียร์ 1 ถ่ายทอดแรงบิดออกมาให้สูงที่สุด พร้อมเสริมการทำงานของ ABS เพื่อให้ควบคุมรถได้ดีบนทาง Off Road
2. หลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า ที่ Ford Everest ใหม่ จะมอบความหรูหรา สุนทรีย์ภายในรถให้คุณเปิดวิสัยทัศน์ ได้จาก ภายในห้องโดยสาร ซึ่งหลังแบบ Panoramic Moonroof จะกินพื้นที่มากกว่าครึ่งของหลังคารถ ช่วยให้คุณเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการมองเห็น ได้อย่างเต็มที่
3. ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า (Power Liftgate) และเบาะแถวที่ 3 ปรับไฟฟ้าพับเรียบได้แบบแยกส่วน 50:50
ไม่ว่าคุณจะต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารจำนวนมาก หรือ สัมภาระที่ต้องขนขึ้นด้านหลัง Everest ใหม่ ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะแก่การเดินทางของคุณ เพียงแค่กดปุ่มที่ปลายนิ้วสัมผัส เบาะที่นั่งตอน 3 ก็จะถูกพับเก็บเพื่อขยายพื้นที่วางสัมภาระได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ประตูบานท้ายขนาดใหญ่ก็ถูกเปิด-ปิด ได้ง่ายด้วยปลายนิ้วสัมผัสจากระบบเปิด-ปิดไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
4. ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ซึ่งจะช่วยให้รถยนต์ขนาดใหญ่ อย่าง Ford Everest ใหม่นี้ จอดเทียบโดยง่าย เพียงแค่กดปุ่ม Parking Assist และเมื่อระบบตรวจพบพื้นที่เพียงพอ คุณก็เพียงแค่ควบคุมเกียร์ และเบรก เท่านั้น ปล่อยให้การสาวพวงมาลัยเป็นหน้าที่ของ Ford Everest ใหม่เอง
5. ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) และระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System) Ford ซึงเน้นในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก ได้ทำการลดอุปสรรคในด้านการมองเห็น ซึ่ง Everest ใหม่ นี้จะช่วยเตือน ความปลอดภัยจากมุมอับต่างๆ ให้แก่คุณ โดยระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับขณะถอยหลัง โดยจะส่งเสียงเตือนขณะถอย และ ระบบตรวจจับ Blind Spot หากมีรถอยู่ทางด้านข้าง จะเตือนด้วยสัญญาณไฟที่กระจกมองข้าง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ Ford Everest ใหม่ ที่เราได้นำเสนอกันไป ต้องเรียกได้ว่าแกร่งสมบูรณ์ พร้อมลุยทุกเส้นทาง และเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันเหนือชั้น ปลอดภัยทุกชีวิต อย่างแท้จริง
หากคุณพร้อมร่วมเดินทางไปกับเราสามารถติดต่อทดลองขับได้ที่โชว์รูมแถวบ้านท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ford.co.th/suvs/all-new-everest
ความคิดเห็น