หลังจากเผยโฉมรูปลักษณ์ภายนอกไปแล้ว เกียกลับมาอีกครั้งด้วยภาพห้องโดยสารของสปอร์ตเทจและข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม
สปอร์ตเทจ เจนเนอเรชั่นที่สี่มีขนาดตัวถังยาวขึ้น 40 มม. (อยู่ที่ 4,480 มม.) และมีฐานล้อกว้างกว่าเดิม 30 มม. (อยู่ที่ 2,670 มม.) ขณะที่ส่วนสูงยังคงเท่าเดิม 1,635 มม. ตัวถังมีความลู่ลมมากขึ้น โดยค่าแรงเสียดทานอากาศลดจาก 0.35 ไปเหลือ 0.33 Cd เนื่องจากการออกแบบแผงกันชนและใต้ท้องรถใหม่หมดจด
เนื่องจากความยาวที่มากขึ้น ทำให้พื้นที่จัดเก็บสัมภาระเพิ่มจาก 465 ลิตรเป็น 503 ลิตร ความจุถังน้ำมันขยายจาก 58 ลิตรเป็น 62 ลิตร ล้ออัลลอยมีหลากหลายลวดลายและขนาดตั้งแต่ 16 – 19 นิ้ว โดยรุ่น GT Line จะมีการตกแต่งที่สปอร์ตมากขึ้น มาพร้อมไฟตัดหมอก LED ท่อไอเสียคู่ แผงดิฟฟิวเซอร์สีโลหะและช่วงล่างที่ถูกเซ็กอัพเป็นพิเศษ
2016 สปอร์ตเทจใช้เครื่องยนต์ GDI ขนาด 1.6 ลิตร พละกำลัง 132 แรงม้า แรงบิด 161 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นพ่วงเทอร์โบชาร์จมีพลัง 177 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังมีรุ่นประหยัด CRDi ดีเซลเทอร์โบ 1.7 ลิตร 115 แรงม้าและรุ่น 2.0 ลิตรที่มีพละกำลังสองระดับคือ 136 แรงม้า 373 นิวตันเมตรและ 184 แรงม้า 400 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 สปีด ตลอดจนเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด
ชมภายในห้องโดยสาร ใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสนุ่มมือมากขึ้น มีหน้าจอทั้งขนาด 7 นิ้วและ 8 นิ้วรองรับระบบอินโฟเทนเมนท์ ลำโพง 6 ตัว เครื่องเสียง 160 วัตต์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ถ้าควักเงินเพิ่มก็จะได้ใช้เครื่องเสียง JBL ลำโพง 8 ตัว 320 วัตต์
พื้นที่ช่วงศีรษะด้านหน้ามีมากกว่าเดิม 5 มม. ส่วนด้านหลังเพิ่มขึ้น 16 มม. ขณะที่พื้นที่ช่วงขาเบาะหน้าและหลังยาวขึ้น 16 มม.และ 7 มม. ตามลำดับ เบาะที่นั่งคู่หน้าของสปอร์ตเทจเป็นแบบปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง ส่วนเบาะด้านหลังปรับเอนได้ 23 – 27 องศาและปรับอุณหภูมิได้ซึ่งเป็นอ็อปชั่นเสริมพิเศษ
เกียปรับปรุงเสียงรบกวนและแรงสั่นสะท้านให้ลดลง ขณะที่ระบบความปลอดภัยถือว่าครบครันมากที่สุดรุ่นหนึ่งในเซกเมนท์ ทั้ง Autonomous Emergency Braking, Lane Departure Warning, Lane Keeping Assist, High Beam Assist, Speed Limit Information Function, Blind Spot Detection และ Rear Cross Traffic Alert
หลังจากการเปิดตัวที่แฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ เกีย สปอร์ตเทจจะออกจำหน่ายในยุโรปในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
LINE
ความคิดเห็น