กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก เมื่อโฟล์คสวาเกนออกมายอมรับว่าพวกเขาใช้ “ซอฟต์แวร์พิเศษ” ที่ช่วยโกงการทดสอบปริมาณมลพิษ
หน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ หรืออีพีเอเปิดเผยว่า ผู้แทนของโฟล์คสวาเกนได้ยอมรับว่าใช้โค๊ดซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการทดสอบมาตรฐานไอเสียของอีพีเอโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าละเมิดข้อกำหนดอากาศสะอาดหรือ Clean Air Act
ซินเธีย จิลส์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการของอีพีเอชี้ว่า “การละเมิดข้อกำหนดดังกล่าวถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก เนื่องจากโฟล์คสวาเกนไม่เพียงใช้เครื่องมือที่ช่วยปรับตัวเลขการทดสอบมลพิษเท่านั้น แต่พวกเขายังปิดบังข้อเท็จจริงต่อผู้บริโภค น่าผิดหวังอย่างมาก”
ข่าวรายงานว่ารถที่ผ่านการทดสอบด้วยการใช้เครื่องมือพิเศษของโฟล์คสวาเกนมีจำนวนราว 482,000 คันซึ่งใช้เครื่องยนต์ “คลีน ดีเซล” ขนาด 2.0 ลิตร อีพีเอระบุว่า ปริมาณไอเสียไนตรัสออกไซด์ในการใช้งานจริงของรถโฟล์คสวาเกนที่ใช้เครื่องยนต์ดังกล่าวสูงเกินกว่าขีดจำกัดที่กฎหมายระบุไว้ถึง 10 – 40 เท่าเลยทีเดียว
โฟล์คสวาเกนอาจถูกปรับเงินถึง 37,500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคัน หรือรวมทั้งหมดกว่า 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว นั่นทำให้โฟล์คสวาเกนได้ประกาศระงับการขายรถรุ่นปี 2015 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตรทั้งหมดแล้ว
มาร์ติน วินเทอร์คอร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโฟล์คสวาเกนระบุว่า “ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เราทำลายความเชื่อถือของลูกค้าและสาธารณชน เราจะทำทุกวิธีการเพื่อแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น”
ความคิดเห็น