ไฟฉุกเฉินหรือบางคนเรียกติดปากว่าไฟผ่าหมากเป็นเหมือนดาบสองคมที่สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้มาก แต่ขณะเดียวกันก็อาจให้โทษที่คาดไม่ถึงเช่นกัน
สภาพอากาศช่วงนี้แปรปรวน ฝนมักเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ วันนี้ ทีมงานออโต้สปินน์จึงขอนำเสนอการใช้ไฟฉุกเฉินทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้องมาฝากกัน
สถานการณ์ที่ไม่ควรใช้
- เมื่อฝนตกหนัก ผู้ขับขี่รถบางคนจะเปิดไฟฉุกเฉินด้วยความคิดว่าจะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่แท้จริงแล้ว เพียงแค่เปิดไฟหน้าก็เพียงพอแล้ว ไฟฉุกเฉินจะทำให้รถที่ตามหลังมาหรือรถที่ขับอยู่ข้างๆ ไม่อาจทราบได้ว่าคุณกำลังจะเปลี่ยนเลนไปทางใด ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้
- ข้ามทางแยก การขับขี่ข้ามทางแยก ถ้าจะเลี้ยวซ้ายให้เปิดไฟเลี้ยวซ้าย แต่ถ้าเลี้ยวขวาก็เปิดไฟเลี้ยวขวาตามปกติ แต่ถ้าต้องการจะตรงไป ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพราะจะทำให้เพื่อนร่วมท้องถนนเกิดความสันสนได้ โดยเฉพาะรถที่อยู่ด้านขวาจะคิดว่าคุณเลี้ยวขวา ส่วนรถที่อยู่ด้านซ้ายจะคิดว่าคุณเลี้ยวซ้าย สร้างความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกเช่นกัน
- จอดซื้อของข้างทาง บางคนคิดว่าไฟฉุกเฉินเป็นเหมือนไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เมื่อเปิดแล้วจะสามารถจอดข้างถนนที่ใดก็ได้ แต่ไฟฉุกเฉินถูกพัฒนามาเพื่อใช้งานตามชื่อ นั่นก็คือ “เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน” เท่านั้น
สถานการณ์ที่ควรใช้
- เมื่อรถเสีย คุณต้องนำเข้าจอดข้างทางหรือบนไหล่ทาง ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้รถคันที่ตามหลังมาสามารถทราบได้ว่าคุณไม่สามารถขับขี่รถต่อไปได้
- เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ก็สามารถใช้ไฟฉุกเฉินเพื่อจอดข้างทางหรือบนไหล่ทาง อาทิอุบัติเหตุหรือสถานการณ์ที่ไม่สามารถขับรถต่อไปได้
- เตือนคันหลัง ในกรณีที่มีการเบรกฉุกเฉิน สามารถเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งเตือนด้านหลังให้รับทราบได้ แต่ควรใช้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น
- ไฟฉุกเฉินยังสามารถใช้สำหรับการขอบคุณ เมื่อคุณเปลี่ยนเลนหรือออกมาจากซอยโดยที่เพื่อนร่วมถนนเอื้อเฟื้อทางให้ คุณสามารถเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแสดงความขอบคุณ
ขอบคุณภาพจาก wikihow
ความคิดเห็น