เมอร์เซเดส-เบนซ์เผยโฉมจีแอลรุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาพร้อมชื่อใหม่ “จีแอลเอส” (Mercedes-Benz GLS) ตามการปรับกลยุทธ์การตั้งชื่อรุ่นใหม่ของค่ายตราดาวสามแฉก
จีแอลเอส มาพร้อมนิยามว่าเป็น “รถเอสยูวีระดับเอส-คลาส” รูปลักษณ์ได้รับการปรับปรุงใหม่ เริ่มจากกรอบไฟหน้าและเดย์ไลท์ LED กระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนกันชนหน้า-หลังก็ถูกปรับดีไซน์ใหม่อีกเล็กน้อยด้วย
กรอบไฟท้ายมีลวดลายที่แตกต่างจากรุ่นเดิม สีสันตัวถังมีให้เลือกมากขึ้น ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ มองในภาพรวม จีแอลเอสถูกปรับโฉมเพียงเล็กน้อยซึ่งหลายคนอาจมองไม่ออกว่าแตกต่างจากรุ่นจีแอลเดิมอย่างไร
ภายในห้องโดยสารรองรับ 7 ที่นั่ง แผงคอนโซลกลางถูกยกเครื่องใหม่ด้วยการติดตั้งหน้าจอขนาด 8 นิ้ว มีทัชแพดและพวงมาลัยสามก้านหุ้มด้วยหนัง Nappa นอกจากนี้ ยังมีระบบฟอกอากาศเพื่อความสะดวกสบายและสดชื่นตลอดการเดินทาง
ระบบความปลอดภัยของรถฟูลไซส์เอสยูวีคันนี้ถือว่าครบครัน ทั้ง COLLISION PREVENTION ASSIST PLUS, Crosswind Assist, ATTENTION ASSIST, PRE-SAFE, Brake Assist BAS, ESP และระบบควบคุมเสถียรภาพ AWD นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างช่วยเหลือการเปลี่ยนเลน จำกัดความเร็ว ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาและระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชนคนเดินถนน
ในส่วนของอ็อปชั่นเสริมยังมีระบบ LED Intelligent Light เพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน และระบบ MAGIC VISION CONTROL ที่มีที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติและปรับอุณหภูมิได้
สำหรับเครื่องยนต์ใช้บล็อกใหญ่ V8 ไบเทอร์โบ รีดพละกำลัง 449 แรงม้า แรงบิด 699 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นจีแอลเอส450 ใช้บล็อก V6 ความจุ 3.0 ลิตร ไบเทอร์โบ พลัง 362 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นท็อปไลน์ จีแอลเอส63 มีพละกำลังถึง 577 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตันเมตรเลยทีเดียว
มาดูกันที่รุ่นดีเซล จีแอลเอส350ดี 4แมติก มีเรี่ยวแรง 255 แรงม้า แรงบิด 616 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ V6 ดีเซลเทอร์โบ ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอสจะเปิดให้จับจองในสหรัฐอเมริกาเดือนหน้า ก่อนเริ่มส่งมอบในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2016
ความคิดเห็น