ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นยอดนิยมทั้งกลุ่มบิ๊คไบค์หรือกลุ่มรถยนต์ต่าง ๆ ที่จะพากันแห่แหนขึ้นมาสัมผัสอากาศที่สดชื่นและหมอกในยามเช้าคงหนีไม่พ้น ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ซึ่งถ้าจะเล่าประวัติเกี่ยวกับ ภูทับเบิก คร่าว ๆ จะได้ความว่า ในช่วงก่อนยุครุ่งเรืองของ ภูทับเบิก สถานทีท่องเที่ยวแห่งนี้ จะมีเฉพาะกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊คไบค์ ที่จะพากันออกทริปเพื่อขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาว และหมอกในยามเช้ากัน
โดยการท่องเที่ยวจะเน้นความเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการนำเตนท์ขึ้นมากางกันเอง อยู่กันแบบไม่เบียดเบียนธรรมชาติมากที่สุด และด้วยความที่ยังไม่เป็นที่นิยม ทำให้สภาพบนภูทับเบิกยังไม่มีความแออัดสักเท่าไร
และสิ่งที่เป็นไฮไลท์ประจำที่นี่คือ ไร่กระหล่ำปลี ที่ชาวเขาเผ่าม้ง ต่างปลูกไว้ในลักษณะขั้นบันไดตามเชิงเขาซึ่งจะเรียงรายกันเต็ม 2 ข้างทางถนนตั้งแต่ช่วงกลางเขา ยาวไปจนสู่จุดสูงสุดที่เรียกว่า ภูทับเบิก
แต่หลังจากเริ่มมีการแชร์ การโพสภาพความสวยงามบนภูทับเบิก ทำให้เกิดกระแสความน่าสนใจที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างต้องการขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติบนภูทับเบิก
เมื่อมีความต้องการสัมผัสบรรยกาศบนภูกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เหล่าเจ้าของไร่กระหล่ำ หรือเจ้าของที่ดินบนภูที่สมัยก่อนยังคงเป็นพื้นที่ธรรมชาติต่างหาแนวทางทำธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
จึงเกิดเป็น รีสอร์ท และบ้านพักต่าง ๆ ขึ้นมากมายในเวลาไม่กี่ปี ซึ่งในปัจจุบันไร่กระหล่ำบนภูทับเบิก ก็ยังคงมีอยู่แต่เหลือน้อยกว่ายุคก่อนมาก เมื่อเหล่านักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ความเป็นส่วนตัว ความเป็นธรรมชาติก็ลดลง กลับกลายเป็นแหล่งธุรกิจชั้นดีที่เหล่าเจ้าของกิจการต่างรีบกันฉกฉวยโอกาสเหล่านี้ไว้
จากการสอบถาม คนในระแวก ได้ข้อมูลมาว่า ในช่วงก่อนปี 2555 ภูทับเบิก ยังคงไม่ได้รับความนิยมหรือมีกระแสมากมายเท่าในยุคนี้ แต่ก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวต่างแห่แหนกันมาสัมผัสอากาศบนยอดภู
แต่ภายหลังปี 2556 เป็นต้นมา กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เรียกได้ว่า หนาตากว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะทำให้เค้าสามารถค้าขาย และประกอบอาชีพได้อย่างสะดวกขึ้น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
แต่สำหรับกลุ่มคนในท้องที่อีกกลุ่ม ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากมีกระแสการท่องเที่ยวบนภูทับเบิกที่สามารถเรียกนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย ทำให้บนยอดภูมีความเปลี่ยนไปแล้ว ความสงบ ความเป็นธรรมชาติ เหลือน้อยลงกว่าแต่ก่อน
และถูกแทนที่ด้วยตึกรา รีสอร์ทต่าง ๆ มากมาย ไร่กระหล่ำที่เป็นเอกลักษณ์ของภูทับเบิก ก็เหลือน้อยลงทุกที ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อาจไม่เหลือไร่กระหล่ำ และความเป็นธรรมชาติเหมือนก่อน และอาจทำให้ถึงจุดจบของ ภูทับเบิก เพราะไม่มีแหล่งสำหรับท่องเที่ยว และความเป็นเอกลักษณ์หมดลง
จากทีมงานได้ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศจริง ๆ บนภูทับเบิก เพื่อหาความจริงว่ายังน่าเที่ยวอยู่หรือไม่ ซึ่งจากที่ประสบกับตัวเองแล้ว บนยอดภูทับเบิก หรือจุดสูงสุด มีเหล่านักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างแอดอัดมากจริง ๆ ต่างคนต่างกางเตนท์กันโดยไม่เหลือช่องให้เดิน เหล่าพ่อค้า แม่ค้า ก็เปิดร้านขายของกันหนาแน่น ซึ่งถ้าจะบอกตามตรงว่าน่าเที่ยวอยู่ไหม ก็อาจจะแล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละคน
ถ้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ๆ เฮฮา สังสรรค์ ต้องการอากาศดี ๆ โดยที่ไม่ได้ต้องการความสงบมากนัก ก็อาจจะยังคงเหมาะอยู่ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็เพียบพร้อมแล้วในตอนนี้ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัมธรรมชาติจริง ๆ ต้องการความสงบ พักผ่อนกับธรรมชาติ อากาศดี ๆ อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่กับ จุดสูงสุด บนภูทับเบิก ในขณะนี้
ซึ่งอาจจะต้องหาที่พักใหม่ที่ไล่ระดับลงมาก็อาจจะยังพอมีอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว ความน่าเที่ยวบน ภูทับเบิก ถ้าถามผมตรง ๆ ผมก็ยังคงตอบแบบเต็มปากว่า ยังน่าเที่ยวอยู่ครับ
ด้วยบรรยากาศดี ๆ อากาศดี ๆ ทะเลหมอกที่จะมาเยี่ยมเยี่ยนคุณได้ทั้งวัน แม้ในปัจจุบัน ความเป็นธรรมชาติจะน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ถูกแทนทีด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ถ้าคิดในอีกแง่ ก็ทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ข้างบนได้สบายมากยิ่งขึ้น
หรือถ้าคุณต้องการชมทะเลหมอกตอนเช้าถึงสาย ๆ แล้วช่วงบ่าย ๆ อาจจะมีมาให้เห็นกันบ้าง โดยที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่อากาศอาจจะไม่ดีเท่าบน ภูทับเบิก แหล่งเที่ยวอีกที่ที่อยากแนะนำคือ เขาค้อ ซึ่งอากาศและบรรยากาศก็ดีไม่น้อยไปกว่ากันเท่าไหร่ แถมแหล่งที่พักยังเริ่มเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านักท่องเที่ยวกันอย่างเรื่อย ๆ แล้ว
โดยการมาเที่ยวในระแวกนี้หากคุณหาที่พักสักที่แล้ว ในช่วงกลางวันว่าง ๆ คุณอาจแวะลงมาเที่ยวตามแหล่งอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ทั้ง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หรือจะแวะสักการะพระมหาอุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ณ วัดผาซ่อนแก้ว ก็เป็นทางเลือกที่ดี โดยรวมสำหรับหน้าหนาวนี้ ถ้ายังไม่มีที่เที่ยว ภูทับเบิก และแหล่งเที่ยวในระแวกก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ก็ต้องฝากทิ้งท้ายไว้สักหน่อยเกี่ยวกับ นักท่องเที่ยว ที่ขึ้นไปเยี่ยมชมว่า อยากให้ช่วยกันรักษาธรรมชาตินี้ไว้นาน ๆ ขยะก็ควรทิ้งเป็นที่เป็นทาง ไร่กระหล่ำที่ยังเหลืออยู่ก็ควรช่วยกันถนุถนอมกันเพื่อจะได้มีธรรมชาติแบบนี้อยู่กับเราไปนาน ๆ
เพราะเหล่าชาวสวนก็ให้ข้อมูลมาว่า นักท่องเที่ยวเมื่อเห็นไร่กระหล่ำ ก็ต่างดีใจวิ่งเข้ามาถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจว่าวิ่งเข้ามาเหยียบพืชผลเสียหายกันไปขนาดไหน
ซึ่งตรงนี้ก็ฝากกันไว้ด้วย ถ้าหาก รักธรรมชาติ รักภูทับเบิก อยากให้มีสถานีท่องเที่ยวอากาศดี ๆ แบบนี้อยู่กับเราไปนาน ๆ พวกเรานักท่องเที่ยวทุกคนต้องช่วยกันรักษา นะครับ
ขอขอบคุณ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย สำหรับ เอ็กซ์-เทรล ในการพิชิต ภูทับเบิก ในครั้งนี้ด้วยครับ
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ความคิดเห็น