การเปิดตัวมาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ไม่เพียงเป็นการต่อยอดความสำเร็จของรถอเนกประสงค์รุ่นท็อปไลน์ของมาสด้าเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการบุกเบิกขุมพลังเทอร์โบครั้งแรกภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟอีกด้วย
ที่ผ่านมา มาสด้าปฏิเสธการใช้ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จมายาวนานหลายปี แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ตัดสินใจหันมาพึ่งพาเทอร์โบด้วยการนำเสนอเครื่องยนต์เทอร์โบ สกายแอคทีฟ-จี 2.5ที (SkyActiv-G 2.5T) ซึ่งจะวางอยู่ใต้ฝากระโปรงของซีเอ็กซ์-9 ออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาช่วงครึ่งหลังของปี 2016
ขุมพลังบล็อกนี้มีพละกำลัง 250 แรงม้า (227 แรงม้าในตลาดญี่ปุ่น) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที โดยมาแทนที่เครื่องยนต์บล็อกเดิม V6 ความจุ 3.7 ลิตรที่พัฒนาโดยฟอร์ด
ความน่าสนใจของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ เทอร์โบคือการไม่ใช้ระบบเทอร์โบแปรผันทั่วไป แต่ใช้เทคโนโลยี Dynamic Pressure Turbo รุ่นแรกของโลก ความโดดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือการแก้ไขปัญหารอรอบหรือ turbo lag ที่เป็นปัญหาหลักของเครื่องยนต์เทอร์โบเกือบทุกบล็อกบนโลกใบนี้
Dynamic Pressure Turbo เป็นระบบแรกในโลกที่ทำให้เครื่องยนต์ 2.5ที มีจังหวะการควบคุมไอเสียที่แตกต่างกันไปตามรอบเครื่องยนต์
ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ (ราว 1,620 รอบ/นาที) พอร์ทไอเสียจะถูกหรี่ให้แคบลงด้วยการปิดชุดวาล์วที่ติดตั้งอยู่ที่ใบเทอร์โบ มาสด้าระบุว่า โซลูชั่นส์นี้ช่วยลดการรบกวนจังหวะการคายไอเสียและช่วยเพิ่มพละกำลังแก่ใบเทอร์โบให้ทำงานต่อเนื่อง
และเมื่อเครื่องยนต์เร่งรอบสูงขึ้น การหมุนเวียนไอเสียก็จะมีพลังมากเพียงพอและวาล์วก็จะเปิดทำให้ใบเทอร์โบหมุนไปตามแรงดันไอเสียได้อย่างต่อเนื่องเหมือนกับเทอร์โบชาร์จทั่วไป
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จีแบบไม่มีระบบอัดอากาศจะมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ระหว่าง 14.5:1 ถึง 15.0:1 แต่สำหรับสกายแอคทีฟ-จี 2.5ที มีกำลังอัดต่ำกว่าโดยอยู่ที่ 10.5:1 เนื่องจากติดตั้งเทอร์โบชาร์จ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เทอร์โบทั่วไป โดยมาสด้าระบุว่าขุมพลังบล็อกนี้เป็นหนึ่งในขุมพลังเทอร์โบที่มีกำลังอัดสูงมากที่สุดในปัจจุบัน ขณะที่ขนาดลูกสูบยังเท่ากับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟทั่วไป นั่นคือ 89 มม.
ความคิดเห็น