ไทรอัมพ์ยาหอมยกประเทศไทยฐานผลิตหลักของโลก ชี้ผลิตสินค้า 65-70% ของไทรอัมพ์ป้อน 40 ตลาดทั่วโลก ล่าสุดเปิดบริษัทเดินหน้าตลาดในไทยเต็มตัว เตรียมเปิดตัวบอนเนวิลล์ใหม่ พร้อมเล็งขยายดีลเลอร์พัทยาเป็นแห่งที่ 8
ปีเตอร์ โคทส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดโรงงานในประเทศไทยมากว่า 10 ปี พบว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของไทรอัมพ์ทั่วโลก ล่าสุด ไทรอัมพ์ได้เข้ามาเปิดบริษัทในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทรอัมพ์ในประเทศไทยอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริทไบท์ ซึ่งได้กลายเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะที่การบริหารงานทั้งหมดจะขึ้นกับไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย)
"ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญมากสำหรับไทรอัมพ์ โดยมีการผลิตรถอย่างบอนเนวิลล์, สตรีท ทริปเปอร์และไทเกอร์ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยโรงงานทั้ง 3 โรงในไทย มีสัดส่วนการผลิต 65-70% ของทั่วโลก"
นอกจากนี้ จากการที่โรงงานแห่งที่ 3 อยู่นอกเขตฟรีโซน ทำให้สามารถผลิตรถเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยได้ ทำให้ราคาจำหน่ายสามารถแข่งขันได้ในช่วงที่ผ่านมา และพบว่ามีการขยายตัวอย่างมาก รวมถึงในตลาดโลกที่ไทรอัมพ์น่าจะมียอดขาย 5.6-5.7 หมื่นคัน เติบโตจาก 5.4 หมื่นคันในปีที่ผ่านมา
ด้าน จักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าไทรอัมพ์ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในกลุ่มรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ระดับพรีเมียม ที่มีตลาดในประเทศไทยปีละ 6,500 คัน และพบว่ามีการเติบโตไม่มากในช่วงที่ผ่านมา
ไทรอัมพ์มียอดจำหน่ายในช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมากว่า 1,400 คันและน่าจะปิดยอดจำหน่ายรวมในปีนี้ที่ 1,500 คัน คิดเป็น 25% ของเซกเมนต์ เติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับยอดจำหน่าย 300 คันในปีก่อนหน้า โดยมีแผนจะเปิดตัวบอนเนวิลล์ใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้
"ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเราเติบโตมาอย่างมากจากเรื่องของการลดราคาจำหน่ายลง 30% ในงานมหกรรมยานยนต์ปีก่อน ทำให้มียอดขายในงานกว่า 500 คัน ในปีนี้ เราก็ได้เตรียมเซอร์ไพร์สสำหรับในงาน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้"
ทั้งนี้ บริษัทกำลังพิจารณาการขยายดีลเลอร์ในต่างจังหวัด โดยเริ่มเปิดรับสมัครดีลเลอร์ที่พัทยาแล้วในขณะนี้ ซึ่งไทรอัพม์มีดีลเลอร์ 5 ราย 7 แห่งในปัจจุบัน ประกอบด้วยอาร์ซีเอและรังสิต ในกทม. เชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี ภูเก็ตและหาดใหญ่ โดยคาดว่าในปีหน้าจะเติบโตอีก 10%
ความคิดเห็น