ฟอร์ดเสร็จสิ้นการตรวจสอบเอเวอร์เรสต์ที่ถูกไฟไหม้ระหว่างการทดสอบขับของสื่อมวลชนในออสเตรเลียแล้ว โดยยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องเรียกคืนแต่อย่างใด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รถฟอร์ด เอเวอร์เรสต์เกิดไฟไหม้ขึ้นอย่างกะทันหันระหว่างกิจกรรมการทดสอบขับในเมืองนิวคาสเซิล ทางตอนเหนือของนครซิดนีย์ ทำให้ผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลียต้องรีบออกมาจากตัวรถ ก่อนที่ไฟจะเผาผลาญไหม้หมดทั้งคัน
ฟอร์ด ออสเตรเลีย ซึ่งรับผิดชอบการพัฒนาระบบวิศวกรรมของเอเวอร์เรสต์และรถกระบะเรนเจอร์ซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกัน ได้นำรถที่ถูกไฟไหม้ส่งตรงไปที่สำนักงานใหญ่ของฟอร์ดในนครเมลเบิร์นทันทีเพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียดถึงสาเหตุที่แท้จริงของเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้
แอนดี้ คูเปอร์ หัวหน้าทีมผู้ตรวจสอบ และเอียน ฟอสตัน หัวหน้าทีมวิศวกรพัฒนาเอเวอร์เรสต์และเรนเจอร์ได้พบสาเหตุของปัญหาซึ่งเกิดจากตัวเชื่อมต่อขั้วแบตเตอรี่ที่ไม่ได้ติดตั้งอย่างเหมาะสม ก่อนที่จะถูกส่งออกจากโรงงานของฟอร์ดในประเทศไทยมายังออสเตรเลีย
“มันเป็นความผิดพลาดของมนุษย์” คูเปอร์กล่าว “พวกเขา (ทีมฝ่ายผลิต) ไม่สามารถสตาร์ทรถได้ก่อนที่จะถูกส่งลงเรือ จึงมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แต่มีการเชื่อมต่อสายบางตัวซึ่งทำหน้าที่ป้อนพลังไฟฟ้าผิดพลาด ตัวขั้วดังกล่าวไม่ได้ถูกติดตั้งอย่างเหมาะสมและสัมผัสกับสลักเกลียวที่อยู่ใกล้กับแบตเตอรี่”
รถเอเวอร์เรสต์คันดังกล่าวถูกใช้งานมากถึง 3,700 กม. ก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น ขณะที่ฟอร์ดยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เป็นกรณีเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดด้านการออกแบบหรือการผลิตแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ต้นเหตุของปัญหาจะชัดเจนว่าเกิดจากสิ่งใด แต่ทีมงานของฟอร์ดก็ทำการตรวจสอบตัวรถโดยละเอียดเพื่อความเชื่อมั่นว่าชิ้นส่วนอื่นๆ ไม่มีปัญหา พร้อมกับทำการตรวจสอบรถเอเวอร์เรสต์กว่า 2,000 คันในออสเตรเลียและที่โรงงานในประเทศไทยเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาคล้ายกันนี้อีก
“เป็นเรื่องน่าผิดหวังทีเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่เราเข้าใจในต้นตอของปัญหาและมั่นใจว่าเป็นกรณีเฉพาะ” คูเปอร์กล่าว “เราไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน”
ฟอสตันกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ฟอร์ดจะสร้างความมั่นใจว่าพนักงานจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นอีกในอนาคต”
ความคิดเห็น