ข้อควรเลี่ยงถ้าต้องการขับรถทางไกลอย่างปลอดภัย

เข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการแล้ว หลายคนคงกำลังเตรียมแผนพักร้อนเพื่อเดินทางช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่คริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่

ถึงหน้าเทศกาลครั้งใด การจราจรบนท้องถนนมักหนาแน่นไปด้วยรถของนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา นั่นหมายถึงจำนวนอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ทีมงานออโต้สปินน์จึงขอเน้นย้ำข้อควรเลี่ยงถ้าต้องการขับรถทางไกลอย่างปลอดภัย

1. ขับรถช้าในเลนขวา

ช่องจราจรด้านขวาถูกออกแบบไว้สำหรับการเร่งแซงและผู้ขับขี่ควรขับในเลนซ้าย แต่บางสถานการณ์เรามักต้องขับรถในเลนขวาเป็นส่วนใหญ่เพราะเลนซ้ายมักถูกจับจองด้วยรถสิบล้อและรถทัวร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ไม่ควรขับอยู่ในเลนขวาจนกีดขวางการจราจรของรถด้านหลังถึงแม้เราจะใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดก็ตาม เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

2. ไม่เปิดไฟเลี้ยว

ถ้าผู้ขับขี่ต้องการเปลี่ยนเลน ควรเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง ไม่ว่าจะเร่งแซง กลับรถ นำรถเข้าจอดข้างทาง หรือในทุกกรณีเพราะการใช้ความเร็วสูงในต่างจังหวัด จำเป็นที่จะต้องส่งสัญญาณให้รถที่อยู่รอบตัวเราได้รับทราบว่าเรากำลังจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

3. ง่วงแล้วขับ

การง่วงแล้วขับมีอันตรายไม่ต่างกับการเมาแล้วขับ ผลสำรวจในอเมริกาชี้ว่าอุบัติเหตุ 1 ใน 5 ที่เกิดจากการง่วงแล้วขับมักนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต โดยความง่วงขณะขับขี่มักเกิดขึ้นในช่วงความเร็วสูงบนถนนโล่งยาว และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 ทุ่มถึง 8 โมงเช้า ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าวหรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ควรตระหนักถึงความพร้อมของตนเองก่อนการขับขี่

4. แซงซ้าย

การแซงซ้ายนำไปสู่อุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเช่นกัน เพราะถือเป็นมุมอับสายตาที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้อย่างชัดเจนก่อนเร่งแซง ขณะที่การเปิดเลนแซงบนไหล่ทางก็ถือว่าอันตรายอย่างมากเพราะอาจมีทั้งจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถจอดและอื่นๆ อีกมากมายบนไหล่ทางที่นำไปสู่อุบัติเหตุสูญเสียทรัพย์สินและถึงแก่ชีวิต

5. ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด

กฎหมายกำหนดไม่ให้ขับด้วยความเร็วเกิน 120 กม./ชม. บนถนนหลวง ดังนั้น ควรปฏิบัติตามเพราะไม่เพียงป้องกันความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย

6. ขับจี้ท้ายคันหน้า

การขับรถจี้ท้ายรถคันหน้าถือเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะไม่เพียงผิดมารยาท หากยังสร้างความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ควรเว้นระยะอย่างเหมาะสมเพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็สามารถมีเวลาในการตัดสินใจหลีกเลี่ยงได้