130 ปีแห่งการกำเนิดยานยนต์ เมื่อคาร์ลและเบอร์ธา เบนซ์ คิดนอกกรอบ ที่เหลือคือตำนาน Share this

130 ปีแห่งการกำเนิดยานยนต์ เมื่อคาร์ลและเบอร์ธา เบนซ์ คิดนอกกรอบ ที่เหลือคือตำนาน

Satapana
โดย Satapana
โพสต์เมื่อ 31 January 2559

เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1886 คาร์ล เบนซ์ยื่นจดสิทธิบัตรรถเบนซินที่เขาคิดค้นขึ้นอย่าง 1886 Benz Patent-Motorwagen ต่อสำนักงานสิทธิบัตรอาณาจักรเยอรมัน (German Imperial Patent Office) ในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นการปูทางสู่การเป็น “รถคันแรกในโลก”

หลังจากการทบทวนและพิจารณาเอกสารอยู่นานหลายเดือน สำนักงานสิทธิบัตรเยอรมันได้อนุมัติสิทธิบัตรดังกล่าวในวันที่ 2 พฤศจิกายน 1886

นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์หลายคนอาจโต้แย้งว่า Patent-Motorwagen ของคาร์ล เบนซ์ไม่ใช่รถคันแรกในโลก แต่มีนักประดิษฐ์หลายคนทำการคิดค้น “รถ” ขึ้นมาก่อนหน้านั้นหลายร้อยปี แต่หลายคนก็ระบุว่า สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวไม่สามารถเรียกว่า “รถยนต์” ได้อย่างเต็มปากเท่าใดนัก

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/7689.jpg

ก่อนหน้า Patent-Motorwagen ของเบนซ์ นิโคลัส-โจเซฟ คูโยต์ นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสได้พัฒนารถพลังไอน้ำขึ้นมาซึ่งมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการบรรทุกผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แต่ตัวรถก็ไม่รองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสะดวกสบาย และนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมรับว่านั่นคือรถคันแรกในโลก

แต่ Patent-Motorwagen ของเบนซ์ ซึ่งเป็นรถแบบสามล้อ ใช้น้ำมันเบนซิน สามารถเลี้ยวไปมาได้อย่างปลอดภัย และยังมีระยะทางขับเคลื่อนที่ไกลพอสมควร ถือเป็นทางเลือกใหม่แทนที่รถเทียมม้า นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า สิทธิบัตรหมายเลข DRP 37435 ของ Patent-Motorwagen กลายเป็นต้นกำเนิดของรถยนต์คันแรกในโลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด

ปัจจุบัน สิทธิบัตรดังกล่าวถูกเก็บไว้ที่ Memory of the World Programme หรือสำนักงานโครงการความทรงจำแห่งโลกของยูเนสโก เคียงข้างกับเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างกูเตนเบิร์ก ไบเบิล มหากฎบัตร แมกนา คาร์ตา และแมสในบันไดเสียงบีไมเนอร์ของโจฮานน์ เซบาสเตียน บาค

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/70821.jpg

การจดสิทธิบัตรรถ Patent-Motorwagen ของทั้งคาร์ล เบนซ์และภรรยา เบอร์ธา ไม่ใช่เรื่องง่าย หากดูจากบริบทเชิงวัฒนธรรมของประเทศเยอรมนีเมื่อ 130 ปีก่อน

ผู้คนทั่วไปในสมัยนั้นหวาดกลัวในสิ่งที่พวกเขาไม่มีความรู้และขาดความเข้าใจ โดยเฉพาะ “รถยนต์” ที่ปราศจากม้าลาก แถมยังมีเสียงและรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด ถือเป็นสิ่งที่ชวนขวัญผวาอย่างมากในตอนนั้น

เยอรมนีในยุคปลายศตวรรษที่ 19 ยังปกคลุมด้วยความเชื่อทางศาสนาอย่างเข้มข้น กลุ่มคนอาวุโสจากศาสนจักรมองว่า งานคิดค้นของเบนซ์คือผลงานของปีศาจ พวกเขาเชื่อว่า มนุษย์ไม่ควรเดินทางโดยปราศจากม้า

ด้วยการถูกกีดกันจากสาธารณชน ทำให้คาร์ลต้องทำงานคนเดียวในบ้านที่ถูกดัดแปลงเป็นเหมือนห้องเวิร์กช็อปเล็กๆ อย่างเงียบเชียบ โดยได้แรงสนับสนุนจากภรรยาอย่างเบอร์ธาเท่านั้น การถูกต่อต้านทำให้คาร์ลยังขาดความมั่นใจในการนำเสนอผลงานต่อสาธารณชน

หนึ่งปีก่อนการจดสิทธิบัตร คาร์ลทดสอบใช้งานรถของเขาบนถนนสาธารณะซึ่งทำให้คนทั่วไปหวาดกลัวกันอย่างมาก รถต้นแบบรุ่นแรกๆ ของเขาควบคุมยาก คาร์ลจึงขับรถพุ่งชนกำแพงซึ่งทำให้ผู้คนทั้งตกใจและขบขันผลงานของเขามากขึ้นไปอีก

แต่เบอร์ธายังคงยืนหยัดสนับสนุนสามี เธอไม่ใช่สตรีทั่วไปในยุคไกเซอร์ ศตวรรษที่ 19 แต่เธอมีความเฉลียวฉลาดและมีหัวก้าวหน้ากว่าสตรีในยุคเดียวกัน แต่สาเหตุเดียวที่ชื่อของเธอไม่ได้อยู่ในสิทธิบัตรร่วมกับคาร์ล ก็เพราะกฎหมายเยอรมันไม่อนุญาต

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/30969.jpg

เบอร์ธา เบนซ์

สิ่งประดิษฐ์ของคาร์ล เบนซ์ได้รับเงินทุนสนับสนุนทั้งหมดจากเบอร์ธา ซึ่งเธอทุ่มเงินไว้ในบริษัทของสามี อย่างไรก็ตาม กฎหมายของเยอรมนีในยุคนั้นไม่อนุญาตให้คู่ครองมีบทบาทเป็นนักลงทุนได้ เบอร์ธาจึงไม่มีสิทธิตามกฎหมายในสิ่งที่สามีคิดค้น

แต่เบอร์ธาก็ยังคงทำงานร่วมกับคาร์ลในห้องเวิร์กช็อป และมีความเข้าใจในกลไกยานยนต์เป็นอย่างดี เธอเคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็น “นักขับรถทดสอบคนแรก” และยังลงมือซ่อมชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ด้วยตนเองโดยที่สามีของเธอไม่ทราบเรื่องอีกด้วย

ถึงแม้ผลงานของคาร์ลจะได้รับสิทธิบัตร แต่ก็ยังมีงานต้องทำอีกมากมายเพื่อที่จะต่อยอดสิทธิบัตรให้กลายเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ ถึงแม้คาร์ลจะผลิตตัวรถมาถึงรุ่นที่สามหรือ Patent-Motorwagen Type III แต่เขาก็ยังไม่เชื่อมั่นว่า รถของเขาพร้อมที่จะจัดจำหน่ายจริง

เบอร์ธาเห็นต่างไปจากสามี ทำให้ทั้งคู่ต้องมีปากเสียงกันหลายครั้ง และเพื่อพิสูจน์ว่าเธอคิดถูก เบอร์ธาและลูกชายอีกสองคนได้แอบขับรถ Patent-Motorwagen ออกไปทดสอบเป็นระยะทาง 106 กม. จากแมนไฮม์ไปยังบ้านแม่ของเบอร์ธาที่ตั้งอยู่ในเมืองพฟอร์ซไฮม์ ซึ่งถือเป็นการขับรถทางไกลครั้งแรกในโลกก็ว่าได้

ลองจินตนาการว่า ในเวลานั้น เยอรมนียังไม่มีถนนลาดยาง ไม่มีป้ายจราจร ไม่มีช่างเทคนิค หรืออู่รับซ่อมรถ และแน่นอนว่าไม่มีปั๊มน้ำมันด้วย เบอร์ธาต้องเผชิญกับปัญหามากมายตลอดทาง แต่เธอก็แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปจนตลอดรอดฝั่ง

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/14c1228_01.jpg

เมื่อเครื่องยนต์สูญเสียพละกำลัง เธอพบว่าสายเชื้อเพลิงอุดตัน เธอจึงใช้กิ๊บผมแยงสายเชื้อเพลิงให้เป็นปกติ เบอร์ธายังซ่อมระบบจุดระเบิดด้วยสายรัดถุงน่อง และยังขอให้ช่างซ่อมรองเท้าที่เจอระหว่างทางทำการติดตั้งแผ่นหนังที่ตัวเบรก ซึ่งกลายเป็นการคิดค้นผ้าเบรกชิ้นแรกในโลก

ตลอดทาง เธอจดสิ่งที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม อย่างระบบเกียร์ 2 สปีดซึ่งจำเป็นต้องมีเกียร์ต่ำอีกหนึ่งเกียร์สำหรับการไต่ขึ้นเนิน และจะต้องมีผ้าเบรกที่ดีกว่านี้

เมื่อเบอร์ธาเดินทางถึงเมืองพฟอร์ซไฮม์ในช่วงค่ำ เธอส่งโทรเลขกลับไปหาสามีทันทีโดยยืนยันว่า “ผลงานของเขาใช้งานได้ดี”

เรื่องราว “การขับทดสอบรถ” ของเบอร์ธายังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในเยอรมนี ซึ่งเรานำมาให้ชมกันด้านล่างนี้ (1:11:45 เป็นต้นไป)

สำหรับรถ Patent-Motorwagen ที่มีสภาพสมบูรณ์ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งเดมเลอร์เชื่อว่ารถคันดังกล่าวอาจเป็นคันเดียวกับที่เบอร์ธา เบนซ์ ขับทดสอบครั้งประวัติศาสตร์ก็เป็นได้


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ