เมื่อ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ไม่ใช่ราชาอีกต่อไป บริษัทจะทำอย่างไรเพื่อความอยู่รอด

ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ดูเหมือนจะเสื่อมถอยลงตามกาลเวลา แน่นอนว่าครั้งหนึ่งค่ายมอเตอร์ไซค์ตราโล่เลยขึ้นแท่นระดับเทพที่ยังคงเป็นตำนานเรื่องเล่าให้สืบสานและเป็นรถที่หลายคนอยากครอบครอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไป

เว็บไซต์ต่างชาติอย่าง irondemons ได้เผยบทความดังกล่าวออกมาโดยบอกว่าครั้งหนึ่งไบค์เกอร์จะเป็ฯไบค์เกอร์ได้จะต้องมี ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ไม่อย่างนั้นเขาก็เป็นได้แค่พวกวัลลาบี(wanna be)

ปัจจุบันภาพลักษณ์และอิสระเสรีและความเป็น  ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ดูเหมือนจะสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ จากบริษัทที่เคยเป็นราชาแห่งท้องถนนดูเหมือนจะเหลือเพียงแค่ชื่อแล้วแบบนี้จะโทษใครดี

หลังจากปี '90 ที่กลุ่มลูกค้าเริ่มมีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์รวมถึงคนทั่วไปเองก็เริ่มมีการขยับมาหาอะไรเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์มากขึ้น ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ก็เลยอาศัยโอกาสนี้ในการปรับราคาเพื่อตอบรับการเพิ่มขึ้นของลูกค้าหน้าใหม่ที่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้หลงใหลอะไรในแบรนด์มากมาย

หลังปี ค.ศ. 2000 ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ก็เริ่มทำตลาดเครื่องแต่งกายและของแต่งมากขึ้นในขณะเดียวกันก็ยังคงมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปี 2006 แฟนตราโล่เริ่มมีการขายรถทิ้งมากขึ้นจากแฟนตราโล่และยังคงต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ทำให้ตลาดมือสองเฟื่องฟูและก็ไม่มีลูกค้าคนไหนที่อยากจะจ่ายเงินแพงๆ เพื่อให้ได้ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน รุ่นใหม่ๆ ในโชว์รูม

โชคดีที่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ยังพอเหลือฐานแฟนคลับที่ยังคิดว่าถ้าไม่ใช่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ก็ไม่ใช่ไบค์เกอร์อยู่บ้าง ในขณะที่คนส่วนใหญ่กลับคิดว่า "ถ้าคุณขี่สองล้อก็พอ ไม่เห็นต้องไปสนใจว่าจะเป็นยี่ห้ออะไร" ซึ่งเราเองก็เห็นด้วย

ฮาร์เลย์-เดวิดสัน มีการย้ายกำลังการผลิตออกไปที่แม็กซิโกและอินเดียมากขึ้นและค่อยๆ ปิดโรงงานที่อเมริกาลง และใช้วิธีส่งออกจากฐานการผลิตไปทั่วโลก ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์เรียกรถเพื่อเข้าปรับปรุงคุณภาพมากมายหลายต่อหลายครั้งอย่างกับว่ารถผลิตเมืองจีน

ในปัจจุบันแค่รถสกู๊เตอร์ก็เพียงพอสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่แล้ว และแน่นอนว่าคนยุคนี้มองหาแบรนด์อื่นๆ อย่าง ฮอนด้า ยามาฮ่า ซูซูกิ อินเดียน วิคตอรี มากกว่าเพราะว่าแบรนด์เหล่านี้สร้างรถที่ดีกว่า ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ไม่เพียงแค่ดูดีกว่าหล่อกว่าเท่กว่าเท่านั้นแต่ยังไว้ใจได้อีกด้วย ใครล่ะจะอยากโดนทิ้งไว้ข้างทางรอรถสไลด์นั่งมองคนอื่นขี่รถผ่านไป

ผู้เขียนบทความดังกล่าวเองก็ครอบครอง ฮาร์เลย์-เดวิดสัน มาหลายต่อหลายรุ่น ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ก็นั่งเขียนขึ้นมาลอยๆ จากคำบอกเล่า กลับมาที่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ต่อ ทีนี้แบรนด์จะทำอย่างไรดีเมื่อคู่แข่งมีรถที่ดีกว่า ทุกวันนี้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ขยับลงมาที่รถที่มีขนาดเล็กลง

ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ไซส์ 550 750 มีสัดส่วนการขายที่เพิ่มขึ้น แต่หลังจากที่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน เอาแต่ปรับราคาขึ้นและสร้างรถที่มีแต่ปัญหาตามหลังมาในช่วงเวลาที่ผ่านมาคู่แข่งก็กวาดส่วนแบ่งไปได้มากมายก่ายกองแล้ว

หาก ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ยังดึงลูกค้ากลุ่มหลักของแบรนด์กลับมาไม่ได้อนาคตของแบรนด์คงไม่ต่างจากช่วงปี '70 และอาจจบลงที่การเผชิญหน้ากับการล้มละลายและคราวนี้จะไม่มีแฟนพันธุ์แท้หรือสาวกมาคอยประคองเหมือนอดีต และครั้งนี้จะไม่มีกลุ่มลูกค้าประเภทที่อยากได้ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน มาประดับบารมีหรือเอาไว้เสริมภาพลักษณ์อีกด้วย

ทุกวันนี้เราไม่จำเป็นต้องครอบครอง ฮาร์เลย์-เดวิดสัน เพื่อเป็นไบค์เกอร์ เราแค่ขี่เพื่อความสุขของเราและก็แทบไม่ต้องแคร์ว่าคุณจะขี่อะไรเพราะนั่นคือความสุขของคุณ

อ่านข่าววงการมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด คลิกที่นี่

มองหาแหล่งซื้อรถยนต์มือสองที่ไว้ใจได้ คลิกที่นี่