[Touring] อีซูซูพาสัมมผัสอากาศหนาวภาคเหนือ กับอีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Share this

[Touring] อีซูซูพาสัมมผัสอากาศหนาวภาคเหนือ กับอีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 17 March 2559

บทสัมผัสแรกของหนึ่งในปิกอัพเจ้าตลาดอย่างอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ ในประเทศไทย ก็คือการพาสื่อมวลชนกว่า 30 ชีวิต ฝ่าทางโค้งกว่า 3,000 โค้ง เดินทางมุ่งหน้าจากเชียงใหม่ ไปจนสุดชายแดนประเทศไทยที่เหนือสุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

แน่นอนว่าทริปนี้ถูกจัดขึ้นในรูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีพระเอกก็คือเจ้าอีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่นใหม่ เกียร์ธรรมดา ที่แน่นอนว่าสร้างคำถามว่าเครื่องเล็กขนาดนี้จะพาทีมสื่อมวลชนผ่านพ้นไปได้โดยสวัสดิภาพหรือไม่

นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ดีแมคซ์ใหม่สร้างกระแสให้กับตลาดรถปิกอัพมากมาย ทั้งเรื่องการตัดสินใจปรับขนาดของเครื่องยนต์ ตัวเลขยอดขายที่ฮือฮาสร้างยอดจองกันข้ามปี เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดปิกอัพไทยก็ไม่ผิด

Isuzu 1

แถมในช่วงต่อจากนี้ อีซูซุก็เตรียมปลุกกระแสอีกรอบด้วยการเปิดตัวเกียร์อัตโนมัติสำหรับเครื่องยนต์รุ่นนี้ โดยได้มีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปก่อนโชว์ในมอเตอร์โชว์ ใครสนใจเรื่องราคาหรือรุ่นย่อยต่าง ๆ ก็ตามไปอ่านได้

กลับมาที่ทริปของเราดีกว่า บทพิสูจน์งานหนักของเครื่องยนต์รุ่นใหม่บนเส้นทางกว่า 600 กิโลเมตร การเดินทาง 3 วัน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวลาดชันและโค้งหักศอกมากมาย จากเชียงใหม่สู่บ้านรักไทยย้อนกลับมาที่ปายและจบการเดินทางที่เชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง

Isuzu 8

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของดีแมคซ์ที่เรานำมาทดสอบก็คือเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ครั้งแรกของโลกปิกอัพ โดยเจ้าเครื่องยนต์รุ่นนี้นั้น ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีค่าไอเสียต่ำสุดในกลุ่ม และรองรับมาตรฐานไอเสียยูโร 6 จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบเดินหน้า 6 สปีด ที่ปรับขนาดของเกียร์ให้เล็กลงกว่าเดิม เพิ่มเติมความสวยงามในห้องโดยสารอย่างเห็นได้ชัด ติดนิดเดียวที่ระยะของเกียร์ 1 กับเกียร์ถอยอยู่ชิดกันไปนิด

Isuzu 2

สมรรถนะขอบงรถและเครื่องยนต์นั้นมีให้มากเพียงพอในการบุกขึ้นผ่าน 3,000 โค้ง เพียงแต่ในช่วงแรกนั้นอาจจะต้องปรับพฤติกรรมการขับให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่จิ๋วแต่แจ๋วรุ่นนี้เสียก่อน ถ้าคุ้นเคยกันดีแล้ว ขอบอกว่าไม่มีปัญหาในการขับอย่างแน่นอน

อีซูซุพาออกทัวร์จากจังหวัดเชียงใหม่ วิ่งผ่านแม่ริมไปทางปาย แล้ววิ่งไปค้างตืนวันแรกกันที่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน เมืองหน้าด่านของประเทศไทยกับประเทศพม่า เรานอนค้างคืนกันคืนแรกที่ลีไวน์บ้านรักไทย ที่พักแบบบ้านดินชั้นเดียว อาหารแบบจีนยูนนาน ขาหมู-หมั่นโถวและอื่น ๆ อีกมากมาย

Isuzu 6

ตื่นแต่เช้าขับรถออกมาเพียง 15 นาที เราก็มาถึงปางอุ๋ง พื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ซ่อนบรรยากาศหนาวเย็นเอาไว้ งานนี้บอกเลยว่าแททบแย่ เพราะไม่ได้เอาเสื้อหนาวมาเผื่อ อาศัยการเคลื่อนที่ไปมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุณหภูมิในร่างกายพอจะสู้กับอากาศหนาวกับเขาได้บ้าง แต่ก็ปากชาตาแดงเหมือนกัน

กลับมาจากปางอุ๋งกินข้าวต้มหมูสับตุ๋นเห็ดหอมร้อน ๆ กับปาท่องโก๋จิ้มนม อันเป็นเมนูเด็ดยามเช้าแถวนี้ เสร็จภารกิตแล้วก็เดินทางกลับไปเส้นทางเดิมที่วิ่งมา โดยมีภารกิจกินข้าวกลางวันแล้วต่อด้วยการไปพอกโคลนกันต่อที่ภูโคลน คันทรีคลับ

Isuzu 5

บ่อโคลนซึ่งเป็น 1 ใน 3 บ่อที่ได้รับการยกย่องถึงคุณค่าของโคลนในบ่อร่วมกับทะเลสาปเดดซีและบ่อโคลนในโรมาเนีย ว่ากันว่าอุดมด้วยแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี จะพอกหน้าหรือพอกตัวก็เลือกกันไป

ส่วนตัวแล้วรู้สึกแปลก ๆ ถ้าพอกตัวที่จะต้องมีพนักงานเข้ามาขัดตัวพอกโคลนให้ เลยขอบายทำแค่พอกหน้าดีกว่า ก็รู้สึกดีนะ พอกมาแล้วพอล้างออกหน้าจะนิ่ม ๆ เด้ง ๆ ก็เลยลองซื้อโคลนกลับมาพอกที่้บ้านด้วย แถมด้วยสบู่โคลน ที่ยังใช้อยู่จนถึงตอนนี้

Isuzu 9

จบกิจกรรมจากบ่อโคลน ขบวนรถอีซูซุดีแมคซ์เดินทางต่อผ่านโค้งมากมายกลับไปที่เมืองปาย แหล่งท่องเที่ยวที่โดยส่วนตัวแล้วเคยประกาศว่าจะไม่กลับมาเที่ยวอีกเด็ดขาด หลังจากที่ความเจริญต่าง ๆ เริ่มเข้ามาในเมืองมากเกินไป เมื่อได้กลับมาเยือนอีกครั้งก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม

บรรยากาศแบบปายสมัยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วหายไปจนแทบไม่เหลือ ความเจริญเข้ามาบดบังความเป็นธรรมชาติและความน่ารื่นรมย์เดิม ๆ ไปหมด แม้แต่ชาวปายแท้ ๆ เองที่เคยรู้จักหลายคน ก็หายหน้าหายตาไปจากเมืองเก่าแห่งนี้ไปมาก เป็นอีกเมืองที่น่าเสียดายมากในความรู้สึกของผม

Isuzu 4

ถนนคนเดิมของปายก็ไม่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือของแปลก ๆ ที่หลั่งใหลเข้ามามากเกินไป นอนหลับไปอีกคืน ตื่นขึ้นมาเราขับรถกับไปที่จุดชมวิวหยุนไหล เพื่อสัมผัสกับอากาศหนาว ๆ บรรยากาศยามเช้าและแสงแรกของวัน ซึ่งจะดีมากเลยถ้าไม่มีทัวร์จีนมาตะโกนโหวกเหวกกันข้าง ๆ ตลอดเวลา

ออกเดินทางจากปายกันเพื่อกลับไปสู่เชียงใหม่อีกรอบ ยังพอมีเวลาเหลือก่อนกลับกทม. เราแวะกินข้าวกันที่เฮือนเพ็ญ ก่อนที่จะเดินทางสู่วัดพระธาตุดอยคำ ที่มีความเชื่อว่าให้อธิษฐานขอพรหลวงพ่อทันใจ บอกว่าจะถวายพวงมาลัยดอกมะลิตั้งแต่ 50 พวงขึ้นไปก็จะสมหวัง ผมไม่มีอะไรจะขอก็เลยแค่กราบไว้ท่านเฉย ๆ

Isuzu 10

ก่อนจะปิดท้ายกันจริง ๆ ด้วยการไปนั่งละเลียดจิบกาแฟกับในร้านกาแฟที่โครงการบ้านข้างวัด ในซอยวัดอุโมงค์ ที่่พยายามสร้างบรรยากาศเก่า ๆ แบบท้องถิ่น แต่ก็แฝงด้วยร้านค้ารูปแบบใหม่ ที่ดูเหมือนยังเป็นสถานที่ค่อนข้างใหม่ เพราะร้านอาหารก็ไม่มาก แถมคนก็ยังไม่ค่อยมาเที่ยวเสียด้วย

ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทริปที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการขับขี่คดโค้งไปตามภูเขากว่า 3,000 โค้งตลอด 600 กิโลเมตรบนการเดินทาง 3 วัน เราได้สัมผัสกับรถยนต์อีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่อย่างละเอียด เครื่องยนต์ให้กำลังที่ดีเพียงพอ ระบบเบรกมั่นใจได้ เรียกว่าตอบคำถามเรื่องสมรรถนะของรถได้อย่างหมดจดในทริปเดียว

แถมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้นั้นก็ถือว่าครบครันดีอยู่ ห้องโดยสารนั่งได้อย่างสบาย ๆ โดยรวมความแล้ว อีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ถือเป็นรถปิกอัพอีกคันที่น่าสนใจไม่น้อยในท้องตลาดบ้านเราในปัจจุบัน...

Isuzu 7

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ