สถาบันเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐอเมริกาหรือ IIHS เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดว่า การกฎหมายเพิ่มความเร็วสูงสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้นถึง 33,000 คนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ผลสำรวจของ IIHS ระบุว่า การเพิ่มความเร็วทุก 5 ไมล์ต่อชม.หรือราว 8 กม.ต่อชม. บนถนนทั่วไปทำให้อัตราการเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 4% ขณะเดียวกันการเพิ่มความเร็วบนถนนระหว่างรัฐหรือถนนไฮเวย์จะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 8% เลยทีเดียว
ทั้งนี้ การจำกัดความเร็วในอเมริกาจะถูกกำหนดโดยหน่วยงานของแต่ละรัฐ อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสของสหรัฐฯ เคยกำหนดไว้เมื่อปี 1973 ว่าความเร็วระดับชาติหรือ National Maximum Speed Limit จะต้องไม่เกิน 55 ไมล์ต่อชม. หรือ 88 กม.ต่อชม. โดยข้อกฎหมายดังกล่าวออกมาในช่วงวิกฤตราคาน้ำมันแพง แต่ก็ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างมาก
ข้อกฎหมายการจำกัดความเร็วดังกล่าวถูกผ่อนคลายลงไปในปี 1987 กระทั่งถูกยกเลิกไปในปี 1995 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความเร็วสูงสุดถูกปรับเพิ่มขึ้นใน 6 รัฐ ซึ่งมีการจำกัดความเร็วที่ 80 ไมล์ต่อชม. หรือราว 128 กม.ต่อชม. โดยรัฐเท็กซัสมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 85 ไมล์ต่อชม. หรือ 136 กม.ต่อชม. นำมาซึ่งอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นตามสถิติข้างตัน
ชาร์ล ฟาร์มเมอร์ รองประธานฝ่ายวิจัยสถิติของ IIHS กล่าวว่า “อัตราการเสียชีวิตจะลดน้อยลงมากกว่านี้ ถ้าหน่วยงานของแต่ละรัฐไม่ปรับเพิ่มความเร็วบนท้องถนน”
ความคิดเห็น