เทสล่าประกาศปรับโฉม โมเดล เอส มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เดินตามความโดดเด่นของรถร่วมค่ายอย่างโมเดล 3 และโมเดล เอ็กซ์ โดยเฉพาะด้านหน้าที่ดูปราดเปรียวมากขึ้น และกรอบไฟหน้าใหม่
เข้ามาชมภายในห้องโดยสาร มีอ็อปชั่นเสริมเพิ่มเติมมากมาย ทั้งเบาะคู่หน้าแบบระบายความร้อนและปรับอุณหภูมิได้ ระบบกุญแจรีย์เลส ระบบอินโฟเทนเมนท์แสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 17 นิ้ว ใบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบเชื่อมต่อบลูทูธและยูเอสบี กล้องมองหลัง ระบบนำทาง รวมถึงการตกแต่งด้วยวัสดุไม้รูปแบบใหม่สองสไตล์ คือ Dark Ash และ Figured Ash
การตกแต่งภายในยังรวมถึงแพ็คเกจ Premium Upgrade ที่มีหนัง Nappa และอัลคันทาร่า มีระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศ LED ลูกค้ายังสามารถเลือกพวงมาลัยแบบปรับอุณหภูมิได้ และระบบฉีดน้ำอุ่นบนกระจกหน้า
สำหรับระบบขับเคลื่อน รุ่นเริ่มต้น โมเดล เอส 70 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 315 แรงม้า แรงบิด 325 ฟุตปอนด์ อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม.ภายใน 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม.ต่อชม.
ขณะที่รุ่นโมเดล เอส 70 ดี มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ รีดพละกำลัง 328 แรงม้า แรงบิด 387 ฟุตปอนด์ ขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 96 กม.ต่อชม. ภายใน 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม.ต่อชม. ทางด้านรุ่นโมเดล เอส 90ดีใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอีกสองตัว รีดพลัง 417 แรงม้า แรงบิด 485 ฟุตปอนด์ อัตราเร่งจากหยุดนิ่งถึง 96 กม.ต่อชม.ใน 4.2 วินาที ท็อปสปีด 250 กม.ต่อชม.
ด้านรุ่นท็อปไลน์ โมเดล เอส พี90ดี มีมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ผลิตพละกำลัง 463 แรงม้า แรงบิด 713 ฟุตปอนด์ อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ใน 3.1 วินาทีเท่านั้น ท็อปสปีดอยู่ที่ 250 กม.ต่อชม. ขณะที่การอัพเกรด Ludicrous ทำให้มีพลังถึง 532 แรงม้า เร่งจาก 0-96 กม.ต่อชม.ใน 2.8 วินาที
ถึงแม้ระบบขับเคลื่อนจะยังคงใช้รุ่นเดิม แต่โมเดล เอส รุ่นไมเนอร์เชนจ์อัพเกรดตัวชาร์จเจอร์เป็น 48 แอมพ์ทำให้ระยะเวลาการชาร์จไฟลดลงด้วย
สำหรับราคาจำหน่ายของเทสล่า โมเดล เอสจะเริ่มต้นที่ 71,500 เหรียญสหรัฐฯ
ความคิดเห็น