หลังจากเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา กินเวลานานเดือนเศษ โตโยต้า จึงพร้อมที่จะให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับ โตโยต้า วีออส รุ่นปรับปรุงใหม่ บนเส้นทางกทม.-พัทยา ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ยากเย็นอะไรและพวกเราก็มีความคุ้นชินกันดี
ถ้าจะสรุปรวมความของวีออส รุ่นใหม่นี้ให้จบแบบง่าย ๆ ก็คือ ภายนอกเหมือนเดิม เครื่องยนต์เดิมที่เพิ่มให้ใช้อี85 ปรับเกียร์เป็นซีวีที 7 สปีด ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว โดยในรุ่นเอสที่นำมาให้ทดสอบมีอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มมาให้อย่างครบครัน
อย่างไรก็ตาม ทีมงานของโตโยต้าบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมากกว่านั้น โดยเฉพาะในรายละเอียดของชิ้นส่วนเล็กน้อยภายในเครื่องยนต์ ที่บอกตรง ๆ ครับว่าพิสูจน์กันได้ยากมากว่าหลังการเปลี่ยนแล้ว รถยนต์มีอรรถประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง
มาว่ากันที่เรื่องหลัก ๆ ของการทดสอบกันดีกว่า วันที่โตโยต้าเลือกให้ทำการทดสอบนั้น แน่นอนว่าเป็นวันที่ฝนตกหนักในช่วงสาย ๆ ไปจนถึงบ่ายในพื้นที่กทม. อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ฝนจะตกนั้น เราได้ทำการวอร์มอัพรถบนสนามทดสอบบางนา กม.3 ของโตโยต้ามาบ้าง
ไลน์การทดสอบไม่ได้มีอะไรมากนอกไปจากการลองสลาลอมบนพื้นกระเบื้องเปียกเพื่อดูการทำงานของวีเอสซี การขับสลาลอม ตีโค้งกลับรถ หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางกระทันหันบนพื้นแห้ง ต้องยอมรับว่าไม่ได้ชินสนามมากมาย ก็เลยจับอาการของรถไม่ได้มากมายนัก
รูปร่างหน้าตานั้นมองโดยรวมแล้วไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมแม้แต่น้อย เปิดฝาห้องเครื่องขึ้นมาจะเจอฝาครอบเครื่องยนต์แบบใหม่ที่ทำมาจากพลาสติก ที่ช่วยในเรื่องของน้ำหนักที่เบาขึ้นจากฝาครอบแบบเดิม แถมยังดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมาอีกเล็กน้อย
เครื่องยนต์รหัส 2NR-FBE แบบดูอัล วีวีที-ไอ ขนาด 1,500 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที มาพร้อมการรองรับเชื้อเพลิงอี85 เป็นครั้งแรกของรุ่นนี้
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที 7 สปีด พร้อมโหมดการเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเองที่คันเกียร์ แน่นอนว่าเมื่อปรับมาใช้เกียร์ซีวีทีนั้น ก็ต้องพกพารูปแบบการใช้งานของซีวีทีที่ลากรอบมากกว่าเกียร์อัตโนมัติธรรมดามาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ห้องโดยสารนั้นไม่ได้ให้บรรยากาศอะไรที่แตกต่างไปจากรุ่นเดิมในภาพรวม ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนที่สุดก็คงจะเป็นคันเกียร์ที่มาพร้อมโหมดปรับเกียร์ได้ด้วยตัวเอง ที่เหลือจะบอกว่ายกมาทั้งกะบิก็ไม่ผิดอะไร แต่ก็ครบครันทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย
โตโยต้าบอกว่าแม้จะทำให้รถใช้งานได้ถึงอี85 แต่ก็คาดว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะยังเลือกใช้อี10 เป็นหลัก และเป็นที่มาของการทดสอบรถในวันนี้ที่รถทดสอบทุกคันมาพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิงอี10 ถ้าใครคิดจะซื้อไปใช้อี85 อาจจะต้องรออีกแปป เดี๋ยวจะยืมมาเติมใช้งานให้อีกครั้ง
โดยรวม ๆ แล้วก็ต้องบอกว่าโตโยต้าเริ่มเดินทางถูกแล้วสำหรับการพัฒนารถรุ่นนี้มาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เครื่องยนต์ที่ทำงานแมตช์กับเกียร์มากกว่าเดิม ช่วงล่างที่แม้จะไม่แน่นหนึบแต่ก็ไว้ใจได้มากขึ้นที่ย่านความเร็วสูง เอาน่า อย่างน้อยมันก็ทำให้เราขับที่ 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างสบายใจ
เมื่อกดคันเร่งจากรตำแหน่งหยุดนิ่งจะรู้สึกว่าตัวรถมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นและทำความเร็วผ่านย่านความเร็วกลางไปสูงได้แบบเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องไปสนใจรอบเครื่องที่จะวิ่งอยู่แถว ๆ 4,000-5,000 รอบต่อนาทีเป็นเรื่องปกติ และตัดรอบลงมาที่ราว ๆ 3,000 รอบก่อนดีดขึ้นไปใหม่
การเร่งแซงนั้นอาจจะยังต้องเผื่อเวลาให้กับรถสักเล็กน้อยในการคิดและตอบสนอง แต่ก็ช่วยได้บ้างด้วยการตบคันเกียร์เข้าหาตัวแล้วเปลี่ยนเกียร์ต่ำลงไปช่วยให้รถตัดสินใจได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความเร็วและรอบเครื่องในขณะที่ต้องการจะเร่งแซงด้วย ดูกันให้ดีดีก่อนตัดสินใจ
ช่วงล่างที่ดูปลิดปลิวในรุ่นก่อนหน้านี้ เมื่อมาพร้อมการปรับปรุงหลายจุดและวีเอสซีก็ทำให้มันดูดีขึ้นอย่างน่าสนใจ แน่นอนว่าวีเอสซีไม่ได้ช่วยให้ช่วงล่างรถดูหนึบแน่นจนเป็นคนละคัน แต่ก็ช่วยได้ดีในการทำความเร็วและการเข้าโค้งที่เนียนขึ้นกว่าเดิม ขับแล้วไม่เหนื่อยหรือต้องพุ่งสมาธิกันมากเหมือนเก่า
ความสะดวกสบายของรถก็เป็นไปตามมาตรฐานของวีออส พื้นที่รอบตัวมีมาให้มากพอสมควร เบาะที่นั่งยังเป็นแบบแบแบออกจากตัวไม่ได้โอบกระชับมาก เบาะที่นั่งตอนหลังบอกเลยว่าใช้เพื่อการวางกระเป๋า แต่ก็แอบเหลือบเห็นว่าเบาะที่นั่งดูสั้นไป น่าจะนั่งแล้วเหลือระยะเข่าลอยพอสมควร
เอาล่ะ มาว่ากันด้วยเรื่องอัตราประหยัดที่เราไม่ได้ทำการทดสอบกัน แต่ทีมงานของโตโยต้าบอกว่าพวกเขาทำการทดสอบมาให้เป็นที่เรียบร้อย เพราะฉะนั้น ถ้าใครขับแล้วทำไม่ได้อย่างที่เขาว่า ก็เชิญติดต่อไปที่โตโยต้านะครับ เราแค่เอาข้อมูลของเขามานำเสนอเฉย ๆ
โตโยต้าบอกว่าเมื่อวิ่งด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ 91 ในรถที่วิ่งบนเส้นทางเดียวกันมาเรื่อย ๆ (ทีมงานใช้รถเบอร์ 8 ตลอดการทดสอบ) พบว่าได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 18.7 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ก็ยังไม่ดีพอ เพราะสถิติที่ดีที่สุดในการทดสอบอยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตรในการทดสอบก่อนหน้า
187 กิโลเมตรบนเส้นทางจากสำนักงานสำโรงไปเขาใหญ่ วิ่งทำความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คือคอนดิชั่นการทดสอบเพื่อให้ได้ตัวเลขนี้ออกมา และหากเป็นการทดสอบบนอี85 แล้วนั้น แน่นอนว่าต้องเปลืองน้ำมันมากกว่า และทำให้ตัวเลขอยู่ที่ระดับ 14.7 กิโลเมตรต่อลิตร
โดยส่วนต้วแล้วก็ไม่คิดว่าตัวเลขมันจะดีขนาดนั้น เพราะการทดสอบของพวกเรานั้นต่างจากทีมงานโตโยต้ากันพอสมควร ทั้งเรื่องของความเร็วและรูปแบบการขับขี่ เอาเป็นว่าไม่กล้ายืนยันเรื่องนี้ครับ รอเวลาที่โตโยต้าจะส่งมอบรถมาทำการทดสอบกันอีกรอบแล้วค่อยมาว่ากันละกัน
แต่ก็เอาเป็นว่าการปรับตัวของโตโยต้าให้กับวีออสในครั้งนี้ น่าจะทำให้ตลาดรถยนต์กลุ่มบี-เซกเมนต์สนุกสนานขึ้นพอสมควร เพราะด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ เมื่อรวมกับความดีงามของรถที่เพิ่มมากขึ้น ก็น่าจะทำให้คู่แข่งหลายรายที่มักจะค่อนขอดเรื่องสมรรถนะอาจจะต้องคิดเกมกันใหม่
วีออสรุ่นปรับปรุงใหม่นี้ถือว่ามีสมรรถนะและการตอบสนองต่อการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองในระดับที่ไม่ธรรมดา ลืมความอืด ลืมความร่อนของรุ่นเดิมออกไปให้หมด เพราะนี่คือวีออสในแบบที่รถเล็กสักคันควรจะเป็น ถือเป็นการปรับตัวที่น่าสนใจเอาเรื่อง
คำถามอะไรที่อยากรู้เชิญถามกันได้ อันไหนที่ต้องรอเทสต์เดี่ยว ขอยกยอดไปไว้อีกทีก็แล้วกันนะครับ!!!
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น