Ford โชว์ 5 เทคโนโลยีความสะดวกและปลอดภัยใหม่ใน New Everest 3.2 และ New Ranger 3.2 Wildtrak Share this

Ford โชว์ 5 เทคโนโลยีความสะดวกและปลอดภัยใหม่ใน New Everest 3.2 และ New Ranger 3.2 Wildtrak

Coke Autospinn
โดย Coke Autospinn
โพสต์เมื่อ 24 May 2559

ฟอร์ด (Ford) เปิดตัว 5 เทคโนโลยี และฟีเจอร์เด็ดๆ เพื่อช่วยในการขับขี่และเพิ่มเติมความปลอดภัยลงใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (Ford Everest) และ ฟอร์ด เรนเจอร์ (Ford Ranger) เพื่อความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น


ฟอร์ด เปิดตัวระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยใหม่ 5 เทคโนโลยี ที่จะช่วยให้ทุกการขับขี่ของคุณสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจะนำลงใส่ในรุ่นที่เปิดตัวใหม่สดๆ ร้อนๆ ปีนี้กับ Ford Everest 3.2 Titaniam Plus และ Ranger 3.2 Wildtrak

ตลอดเส้นทางการทดสอบระหว่าง กรุงเทพฯ – พระนครศรีอยุธยา ได้ทดสอบเทคโนโลยีอันชาญฉลาดใหม่ที่เพิ่มในฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร และฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 เพื่อมอบความสะดวกสบายและเพิ่มความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ตลอดการเดินทาง ได้แก่

Adapp

ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ใช้เรดาร์วัดระยะห่างระหว่างรถคันหน้า โดยระบบจะตั้งค่าระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติเพื่อให้รถอยู่ห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ปลอดภัยตามความเร็วที่ตั้งไว้ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรคตามคันหน้า หากรถคันหน้าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ต่ำลงระบบจะลดความเร็วลงอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างในระยะที่ปลอดภัย และเมื่อถนนกลับมาโล่ง คันหน้าเร่งความเร็วระบบก็จะทำการคืนความเร็วสู่ระดับที่ตั้งไว้

 

Lane

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ทำงานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งบริเวณหน้ารถเพื่อตรวจจับหาเส้นแบ่งเลนบนพื้นถนนข้างหน้า โดยระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับขี่กำลังเบนรถออกจากเลนโดยตั้งใจหรือไม่ จากนั้นจึงเปรียบเทียบข้อมูลจากกล้องกับมุมและแรงบิดของพวงมาลัย หากระบบพบว่าผู้ขับขี่กำลังเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะเข้าควบคุมแรงบิดของพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าเพื่อดึงรถกลับเข้าสู่เส้นทางเดิม หากรถยังคงเคลื่อนออกนอกเลน สัญญาณเตือนการเปลี่ยนเลนจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยระบบสั่นที่พวงมาลัย

Chonn

ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ใช้เรดาร์บริเวณหน้ารถเพื่อวัดระยะห่างของรถกับวัตถุทีี่เคลื่อนอยู่ด้านหน้า โดยจะป้องกันการชนที่ความเร็วสูงกว่า 5 กม. ต่อชั่วโมง หากระบบวัดค่าเวลากก่อนชนได้ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบบนกระจักด้านหน้าและแสดงข้อความเตือนบนจอแสดงข้อมูง หากไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะชาร์จแรงเบรกเตรียมไว้ จึงทำให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถด้เร็วขึ้นเมื่อแตะเบรก

Kafare

ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า ระบบดังกล่าวจะทำงานโดยใช้กล้องที่ติดตั้งหน้ารถยนต์เชื่อมต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ กล้องมีหน้าที่ระบุและบันทึกตำแหน่งช่องที่รถวิ่งอยู่ เมื่อรถเคลื่อนที่ระบบจะคาดการณ์ตำแหน่งที่รถควรจะอยู่โดยอ้างอิงจากตำแหน่งของช่องทางที่บันทึกไว้ หากพบว่ามีความต่างมากซึ่งแสดงถึงการขับขี่ที่ไม่อยู่ในเลน ระบบจะแสดงสัญญาณที่หน้าจอให้้ทราบว่่าควรหยุดพัก

Fire

ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto Hight Beam Control) ระบบจะทำงานที่ความเร็วสูงกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบนี้จะใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าตรวจสอบสภาวะต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อพิจารณาว่าเมื่อใดต้องเปิดหรือปิดไฟสูง ระบบจะเปิดไฟสูงเมื่อบริเวณนั้นมีความืดมากพอและไม่มีแสงไฟจากรถคันอื่นๆ โดยรอบ

DCIM100GOPRO

Ford DAT Drive 13

นอกจากนี้สำหรับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส ปี 2016 ยังมีการติดตั้ง ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ที่ช่วยให้กาารนำรถเข้าจอดเทียบข้างง่ายมากยิ่งขึ้นเพียงเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก เท่านั้โดยเราไม่ต้องบังคคับพวงมาลัยเอง และ ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขีบขี่ในนกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอดหรือเมื่อมีรถตัดผ่านขณะเราถอยออกจากช่่องจอด เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ