ด้วยความนิยมในบริการ “ride-sharing” หรือแบ่งปันรถร่วมกันใช้ ทำให้หน่วยงานเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐอเมริกาจะเริ่มทดสอบการชนด้านหลังตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป
ถึงแม้โปรแกรมการทดสอบการชนจะมีมานานหลายสิบปีแล้ว แต่การทดสอบทั้งหมดจะเน้นไปที่การชนด้านหน้าเพื่อประเมินผลการปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า นั่นทำให้ผู้โดยสารบนเบาะหลังถูกละเลยมาเนิ่นนาน
รายงานข่าวระบุว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่หน่วยงานเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐอเมริกาจะเริ่มมุ่งเน้นการทดสอบเพื่อปกป้องผู้โดยสารเบาะหลัง เพราะจำนวนผู้โดยสารเบาะตอนหลังที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้โดยสารเบาะหลังเป็นเด็ก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ล่าสุดเพิ่งเกิดกรณีอุบัติเหตุของพ่อแม่คู่หนึ่งที่เดินทางมาพร้อมกับเด็กอายุ 16 เดือน และถูกชนท้ายโดยรถมินิแวนที่ความเร็วเกือบ 100 กม.ต่อชม. เบาะที่นั่งคู่หน้าที่ถูกออกแบบมาให้ลดแรงกระแทกได้พับลงใส่ศีรษะเด็กคนดังกล่าวจนเสียชีวิต
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายคาดหวังว่า การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนเบาะหลังของหน่วยงานเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐฯ จะช่วยผลักดันบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านหลัง และใช้เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติบนเบาะทุกที่นั่ง รวมถึงคิดค้นอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต
ความคิดเห็น