ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า นิสสันได้ซื้อหุ้นมูลค่า 34% ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยวงเงินมูลค่า 237 พันล้านเยน หรือกว่า 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นเพิ่งรายงานว่า นิสสันจะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 34% ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ล่าสุดในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม นิสสันได้บรรลุข้อตกลงซื้อหุ้น 506.6 ล้านหุ้นของมิตซูบิชิ มอเตอร์สเรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวระบุว่ามูลค่าหุ้นอยู่ที่ 468.52 เยน หรือ 4.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น ทำให้มูลค่ารวมพุ่งทะลุหลัก 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งดีลนี้ทำให้นิสสันกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์สและสามารถควบคุมการดำเนินกิจการได้
มิตซูบิชิกำลังประสบปัญหาเรื่องอื้อฉาวกรณีการโกงค่าทดสอบอัตราบริโภคน้ำมัน แต่เมื่อนิสสันเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่มิตซูบิชิจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หลังจากมูลค่าหุ้นตกต่ำลงถึง 43% (นับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน) หลังจากเกิดเหตุอื้อฉาวดัวกล่าว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการที่นิสสันเข้าซื้อหุ้นมิตซูบิชิในเวลานี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างมาก
คาร์ลอส กอส์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนิสสัน เผยว่าดีลการซื้อหุ้นครั้งนี้ถือเป็นดีลที่ "วิน-วิน" หรือสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมการเติบโตของมิตซูบิชิอย่างเต็มที่
"ทั้งนิสสันและมิตซูบิชิจะแบ่งปันงานวิจัยและพัฒนาร่วมกัน โดยมุ่งเน้นที่รถพลังงานไฟฟ้า รถกระบะและรถที่ใช้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงการแสวงหาประโยชน์ร่วมกันในด้านการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ" กอส์นกล่าว
ด้านโอซามุ มาซูโกะ ประธานคณะกรรมการบริหารของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดเผยว่า ข้อตกลงครั้งนี้เป็นการสร้างประโยชน์ในระยะยาวของทั้งสองบริษัทเพื่อการเติบโตต่อไปในอนาคต
"ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรื้อฟื้นความเชื่อมั่นหลังจากเกิดกรณีเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ด้วยความร่วมมือกับนิสสัน เราจะเริ่มกระบวนการรับมือกับความท้าทายและความยากลำบาก" มาซูโกะกล่าว
ความคิดเห็น