[Test Drive] New Honda Civic Turbo RS หล่อ หรู แรง ครบครัน

รีวิวทดสอบการขับขี่ เดอะนิว ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ อาร์เอส (The New Honda Civic Turbo RS) ที่พูดได้อย่างเต็มปากเลยทีเดียวว่า แทบไม่อยากจะคืนรถทดสอบกันเลยทีเดียว

นับเป็นปรากฏการณ์สำหรับตลาดรถยนต์ระดับ ซี-เซกเมนต์ เลยทีเดียวหลังจากที่มีการเปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ (เจนเนอเรชั่นที่ 10) ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่แทบจะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ หากเทียบกับ โฉมก่อนหน้า

ไม่ว่าจะเป็นทางด้านรูปลักษณ์การออกแบบใหม่ที่เน้นความเป็นสปอร์ตคูเป้นคราบรถยนต์ซีดาน ความสปอร์ต ความสวยงาม ความหรูหรา ซึ่งน่าจะถูกอกถูกใจใครหลายๆ คนจน ณ ปัจจุบัน ยอดจอง และรับรถยนต์ยาวไปหลายเดือน

โดย ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ หรือที่เรียกกันว่า ซีวิค เอฟซี (Civic FC) ในรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ทางฮอนด้า ได้นำเครื่องยนต์เทอร์โบติดตั้งมาจากโรงงานเพื่อเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการความแรง ความซิ่งมากกว่าเดิม โดยจะมีตัวเลือกให้ได้เครื่องยนต์เบนซินวีเทค 1.8 ลิตร และ 1.5 ลิตร เทอร์โบ โดยทั้งสองเครื่องยนต์ถูกพัฒนาบนพื้นฐาน EarthDream ของฮอนด้า ที่เน้นความประหยัด และรักษ์โลก แต่ยังไม่ทิ้งสมรรถนะที่ดี

รูปลักษณ์ออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตูเป้ หรูหรา สวยงาม โดดเด่นบนท้องถนน

สำหรับ ฮอนด้า ซีวิค เอฟซี รุ่นใหม่นี้มีการออกแบบใหม่หมดทุกส่วน ซึ่งต้องยอมรับจริงๆ ว่ามีความสวยงาม แทบจะทุกมิติมุมมองเลยทีเดียว เมื่อเห็นบนท้องถนน โดยเฉพาะไฟท้ายที่มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร แถมล้ำสมัย

ด้วยขนาดมิติตัวถังรถยนต์ใหม่ที่มี ขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ทั้ง กว้าง ยาว และระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 30 มิลลิเมตร แต่จะมีแค่เพียงความสูงรถยนต์ที่น้อยลงกว่ารุ่นก่อนอยู่ที่ 19 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ตัวรถยนต์มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น น่าจะถูกอกถูกใจวัยรุ่นแน่นอน

แม้ตัวรถยนต์จะมีขนาดใหญ่ขึ้นโดยสามารถเทียบชั้นรถยนต์ประเภท ดี-เซกเมนต์ (แคมรี่ แอคคอร์ด) ทั้งภายในและภายนอก แถมยังมีความสูงที่เตี้ยลงกว่ารุ่นก่อน แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการเดินทางเพราะ ภายในถูกออกแบบให้รู้สึกกว้างขว้างสะดวกสบาย และล้ำสมัย

ด้านหน้ารถยนต์ถูกออกแบบตามสไตล์ฮอนด้าในยุคใหม่ ที่จะมาพร้อมกระจังหน้าโครมเมี่ยมขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบให้สอดรับกับชุดโคมไฟหน้า โดยคันที่นำมาทดสอบเป็นรุ่นท็อปสุดคือ Turbo RS ที่จะแตกต่างจากรุ่นปรกติบริเวณกระจังหน้าจะเป็นสีดำเงาและชุดโคมไฟหน้าจะเป็นแบบ LED พร้อม Daylight

และในส่วนท้ายรถยนต์สำหรับรุ่น Turbo RS จะเพิ่มเติมในส่วนของสปอยเลอร์ท้ายพร้อมไฟเบรคดวงที่สาม ที่ถูกติดตั้งมาจากโรงงาน พร้อมสคลับเพลทบ่งบอกรุ่น RS สีแดง บริเวณท้าย เรียกได้ว่าสวยงามออกมาจากโรงงานเลยทีเดียว

ภายในสปอร์ตหรูหรา ล้ำสมัย งานวัสดุต่างๆ แน่นหนา คุ้มค่าสมราคา

หลังจากเปิดประตูเข้ามาพบกับ แผงคอนโซลด้านในที่ต้องบอกว่า สวยงามขึ้นกว่ารุ่นก่อน ทั้งการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุที่ต้องเรียกว่าไปไกลเลยทีเดียว ทั้งเนื้องานและวัสดุที่เลือกใช้รู้สึกได้ถึงความแน่น และความใส่ใจในการออกแบบ

จุดเด่นคือแผงหน้าปัดมาพร้อมมาตรวัด ที่ประกอบด้วย มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ มาตรวัดระดับเชื้อเพลิง และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ที่แสดงผลเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด ในช่วงการสตาทเครื่องยนต์ หรือเปิดระบบไฟฟ้า จะเห็นการเล่นดิสเพลบนหน้าปัด สวยงามให้อารมณ์เหมือนหน้าปัดเครื่องบินหรือรถยนต์หรูๆ

ทางด้านเบาะนั่งฝั่งคนขับค่อนข้างกระชับเลยทีเดียว การออกแบบการโอบรับสรีระร่างกายทำมาได้ค่อนข้างดี หากขับขี่ด้วยความเร็วหรือในขณะเข้าโค้ง จะทำให้รับร่างกายได้ดีระดับหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ล้วนแล้วแต่คนชอบ แต่สำหรับขาซิ่งหรือขารถเร็วน่าจะถูกใจแน่นอน

สำหรับใครที่ใช่ ฮอนด้า ในยุคใหม่ๆ ที่มาพร้อมหน้าจอแบบทัชสกีน น่าจะพอทราบมาว่าในช่วงการกดปรับระดับแอร์ หรือจะเป็นการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ บนหน้าจอทัชสกรีน จะมีอาการหน่วงบ้างไม่ตามนิ้วแบบปุ๊ปปั๊ป แต่สำหรับ ซีวิค ใหม่รุ่นนี้ ถูกปรับปรุงในส่วนนี้ด้วยทำให้การทำงานเร็วขึ้นพอสมควร ซึ่งค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว

รุ่นแรกกับการนำขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตรมาใส่ ที่ค่อนข้างจี๊ดจ๊าด หลังติดเบาะเอาง่ายๆ

สำหรับ ฮอนด้า ซีวิค เอฟซี (Honda Civic FC) เป็นรุ่นแรกที่ได้นำเครื่องยนต์เบนซิล 1.5 ลิตร เทอร์โบ มาบรรจุและทำตลาดในประเทศไทย โดยทางฮอนด้า ได้เครมไว้ว่า เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร วีเทค เทอร์โบรุ่นนี้ มีสมรรถนะเทียบชั้นเครื่องยนต์ระดับ 2.4 ลิตร แต่มีความประหยัดเท่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร

ทางด้านเครื่องยนต์มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร วีเทคเทอร์โบ ที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ และแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ CVT แบบ 7 สปีด การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลไม่มีการกระตุกแต่อย่างใด

การขับขี่จากการทดสอบต้องบอกเลยว่าติดเท้ามาก การกดเร่งแซงสามารถไว้ใจได้ในทุกจังหวะ ขับๆ ความขึ้นถึง 160-170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะมาจาปัจจัยหลายๆ อย่าง

ทั้งตัวรถที่มีความสูงลดลง สมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีระบบเทอร์โบ และระบบช่วงล่างที่หนึบแน่น สไตล์รถสปอร์ต แต่ก็ไม่ถึงขึ้นแข็งจนนั่งไม่สบาย เอาตามความเข้าใจง่ายๆ คือได้อารมณ์คนละฟิลกับ ซีวิครุ่นก่อนหน้าค่อนข้างมาก

โดยรวมถือว่าสมบูรณ์แบบทั้งการขับขี่ และรูปลักษณ์ที่สวยงามพรีเมี่ยม

การขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างที่ทาง ฮอนด้า ตั้งใจและพยายามเซตมาใหม่เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์รถยนต์ฮอนด้า โดย ซีวิค รุ่นใหม่นี้ มาถูกทางแล้วกับช่วงล่างที่หนึบแน่น เกาะถนน แต่ก็ไม่ถึงกับกระด้างจนหัวโยก แต่ก็ยังมีกลิ่นอายจากฮอนด้ามานิดๆ เหมือนกัน

เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร วีเทค เทอร์โบ ตัวนี้ต้องบอกเลยว่า จี๊ดจ๊าด โดนใจมาก ระหว่างขับไม่ว่าจะช่วงเร่งแซง หรือต้องการทำความเร็ว เมื่อกดคันเร่ง กำลังเครื่องยนจะถูกส่งออกมาทันทีไม่มีอาการรอรอบ หรืออืดอาดเลย หากใครอยากเข้าใจคำว่า รถเดิมๆ หลังติดเบาะ ต้องลองเองกับตัว

ในส่วนของรูปลักษณ์การออกแบบใหม่ ที่มีการขยายเพิ่มขึ้นทั้ง กว้าง ยาว และระยะฐานล้อ แต่ลดความสูงของรถยนต์เพื่อความสปอร์ตสวยงาม การตกแต่งภายนอก ที่สปอร์ตและพรี่เมี่ยมจนรู้สึกได้เมื่อเห็นบนท้องถนน อันนี้ล้วนแล้วแต่ ความชอบของแต่ละบุคคล แต่สำหรับผม ค่อนข้างโดนใจมาก เพราะมีความสปอร์ตแบบผู้ดีๆ เฉกเช่นรถยนต์ยุโรปหรูๆ เลยทีเดียว

โดยในการทดสอบครั้งนี้ ได้ใช้รุ่นท็อปสุดหรือตัว Turbo RS คันนี้ กับออพชันแน่นๆ ด้วย ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ที่จะโชว์ภาพจากกล้องบริเวณกระจกมองข้างฝั่งซ้าย สู่หน้าจอ กลางคอนโซลขนาด 7 นิ้ว ในช่วงที่เรายกไฟเลี้ยวซ้าย

หรือหากใครต้องการกดดู ก็สามารถทำได้ด้วยการกดบริเวณหัวก้านไฟเลี้ยว และระบบควบคุมเกียร์ที่พวงมาลัยหรือ แพดเดิ้ลชิฟ ก็มีมาให้เฉพาะตัว RS Turbo นี้เช่นกัน เรียกได้ว่า ครบเครื่องทั้งความหล่อ และความสนุกสนาน สะดวกสบายในการขับขี่เลยทีเดียวกับค่าตัวที่ 1,199,000 บาท กับความหล่อแบบเดิมๆ แบบนี้ นับว่าน่าสนใจไม่น้อย

ขอพูดจากใจเลยว่า รถยนต์ทดสอบในครั้งนี้ เป็นการยืมที่แทบไม่อยากจะคืนเลยทีเดียว