มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นประกาศเผยโฉมมาสด้า เอ็กซ์เซล่าหรือมาสด้า 3 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ซึ่งพร้อมออกทำตลาดญี่ปุ่นทันที
รถคอมแพกต์รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ยังมีทั้งโฉมแฮทช์แบ็กและซีดาน มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกใช้เพิ่มเติมอีก 2 รุ่น คือสกายแอคทีฟ-ดี ขนาด 1.5 ลิตร และ 2.2 ลิตร ซึ่งโดดเด่นที่ความประหยัดน้ำมันสูงสุดระดับ 21.6 กม.ต่อลิตร และ 21.4 กม.ต่อลิตรตามลำดับ (ตัวเลขความประหยัดของรุ่นแฮทช์แบ็ก) ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด
เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรยังมาพร้อมระบบ i-ACTIV AWD ขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งมีการกระจายแรงบิดสู่ล้อหน้าและล้อหลังตามสภาพถนน สภาพอากาศ และความต้องการของผู้ขับขี่
มาสด้า 3 ยังมีเครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ-จี ความจุ 1.5 ลิตรและรุ่นไฮบริดที่ประกบคู่เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี 2.0 ลิตรเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า
อีกหนึ่งไฮไลท์ของมาสด้า 3 รุ่นปรับโฉมใหม่คือการติดตั้งแพ็คเกจเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ซึ่งผสมผสานการควบคุมเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ แชสซีส์ และตัวถังรถให้สอดคล้องกับแนวคิด Jinba-ittai เน้นความเร้าใจในการขับขี่โดยเฉพาะ โดยมีระบบ G-Vectoring Control เป็นหนึ่งในแพ็คเกจเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้สอดรับกับการหมุนพวงมาลัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของล้อ ทำให้ตัวรถมีอัตราเร่งที่นุ่มนวลมากขึ้น และเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ระบบนี้ช่วยควบคุมในทุกรูปแบบการขับขี่ ทั้งการขับทั่วไปในชีวิตประจำวัน และการหักหลบในสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่
นอกจากนี้เทคโนโลยีใหม่ที่ติดตั้งในมาสด้า 3 ไมเนอร์เชนจ์ยังรวมถึง Natural Sound Frequency Control ช่วยลดอาการน็อกของเครื่องยนต์ดีเซลสกายแอคทีฟ-ดีเพื่อให้เสียงเครื่องยนต์ราบรื่นหูมากยิ่งขึ้น มาสด้าย้ำว่าเทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดการให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางของตัวรถ
ระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจคือ Traffic Sign Recognition System (TSR) กล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้ารถจะตรวจจับป้ายและสัญญาณจราจร โดยเฉพาะป้ายจำกัดความเร็ว ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนขึ้นให้ผู้ขับขี่ได้รับทราบถ้าขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับป้ายห้ามเข้าและป้ายหยุดรถได้ด้วย
สำหรับการออกแบบภายนอกเน้นเพิ่มความทันสมัยโดยเฉพาะส่วนหน้าของตัวรถ สีตัวถังเทาเมทัลลิก Machine Gray Premium Metallic เป็นสีใหม่พร้อมกับมีอีก 9 สีให้เลือกสรร ภายในห้องโดยสารถูกยกระดับวัสดุตกแต่งให้มีความพรีเมียมมากขึ้น โดยมีอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างระบบเบรกมือไฟฟ้าในรุ่นดีเซล 2.2 ลิตร
มาซามิชิ โคไก ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมาสด้ากล่าวว่า “มาสด้ามีความมุ่งมั่นทีจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้าของเรา เพื่อสร้างความสัมพันธ์สุดพิเศษระหว่างตัวรถและลูกค้า พร้อมกับเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้าจะเลือกใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งการทำเช่นนั้นได้เราต้องเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางไว้ในรถของเราอย่างต่อเนื่อง”
ราคาจำหน่ายของมาสด้า 3 ในแดนปลาดิบเริ่มต้นที่ 1.76 ล้านเยนในรุ่นเบนซิน 1.5 ลิตรไปจนถึง 3.32 ล้านเยนสำหรับรุ่นดีเซล 2.2 ลิตร
ความคิดเห็น