[1st Impression] 2016 Chevrolet Colorado เครื่องยนต์เนียนขึ้น ห้องโดยสารเงียบขึ้น และน่าใช้งานขึ้นละ!!!

เชฟโรเลต ประเทศไทย ส่งเทียบเชิญให้ ออโต้สปินน์ เข้าร่วมทดสอบรถปิกอัพรุ่นปรับปรุงใหม่ 2016 เชฟโรเลต โคโรลาโด (2016 Chevrolet Colorado) กันตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา แต่เราติดปัญหาหลายประการ เลยเพิ่งจะว่างมาทดสอบขับกันเมื่อวานนี้

แถมการทดสอบยังไม่เป็นใจด้วยการหอบฝนให้ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราไม่สามารถทำการทดสอบบนเส้นทางออฟโรดที่จัดเตรียมเอาไว้ได้ แต่แค่ลองเส้นทางขับเคลื่อน 2 ล้อแบบลื่น ๆ และการทดสอบบนถนนหลวงเท่านั้น ทำให้แมตช์ลุยต้องขอแปะกันเอาไว้ก่อน

ต้องบอกก่อนนะครับว่าแม้จะมีการเปิดตัวแบบซอฟท์ ลอนช์ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ ณ ถึงวันนี้ที่เราทำการทดสอบเรียบร้อย เชฟโรเลต ก็ยังไม่ได้ประกาศราคาจำหน่ายของรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ ต้องรอเปิดรอบประชาชนอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้

ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาไว้ว่า คำว่าราคาจำหน่ายเหมาะสม ไม่แพ้คู่แข่ง แข่งกันได้แน่นอน ทำราคาสวยงาม ฯลฯ ที่ใช้ตอบกันตลอดการทดสอบนั้น เมื่อถึงเวลาเปิดราคาออกมาแล้วจะทำให้ทุกคนร้องว้าวหรือร้องเฮ้อ ก็เอาเป็นว่ารอดูกันต่อไปอีกสักระยะ

ในการทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรก เชฟโรเลตได้นำรถปิกอัพโคโลราโด ไฮ คันทรี่ ซึ่งเป็นตัวท๊อปทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อมาให้ทดสอบกัน ซึ่งเราจับคู่กับรถยนต์เบอร์ 5 โดยเส้นทางกทม.-ราชบุรีนั้น เราขับคนเดียว เพราะพาร์ทเนอร์เราคือพีอาร์สาวสวยของจีเอ็มนั่นเอง

ก็ดีครับ มีเวลาอยู่กับรถมากขึ้นอีกเล็กน้อย ต้องบอกก่อนเลยว่า ใครที่คิดว่าเชฟโรเลตทำการปรับเปลี่ยนรถรุ่นนี้เพียงเล็กน้อย อาจจะต้องคิดใหม่ เพราะเชฟโรเลตนั้น ทำงานละเอียดมากเพื่อปิดจุดอ่อนของรถรุ่นเดิม เรียกว่าเปลี่ยนกันแม้กระทั่งยางรองเครื่อง ฉีดโฟมขอบประตู เพิ่มกาบยางกันเลยทีเดียว

เพราะต้องไม่ลืมว่าในโคโรลาโดรุ่นก่อนหน้านี้ ได้รับคำกล่าวขวัญกันเป็นอย่างมากว่ารถนั้นค่อนข้างจะต้านลมและมีเสียงดังในการใช้งาน คราวนี้เชฟโรเลตเลยจัดมาใหม่ ให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานลดลง 12% และเสียงในห้องโดยสารที่หายไปอีก 8%

ขณะที่เครื่องยนต์ใหม่นั้น เชฟโรเลต ตัดสินใจเริ่มทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่นเดิม เพิ่มเติมคือเทอร์โบแปรผัน เพียงรุ่นเดียว ก่อนทิ้งคำถามว่าจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องยนต์รุ่น 2.8 ลิตร เข้ามาทำตลาดหรือไม่ หากเครื่องยนต์รุ่นนี้สามารถทดแทนได้ทั้งหมด

เครื่องยนต์รุ่นใหม่ให้พละกำลังเพิ่มเป็น 180 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ดูจากสมรรถนะละมากลาง ๆ ระหว่างเครื่องยนต์เก่า 2 รุ่น แต่เชฟโรเลตเคลว่าใช้งานได้แน่นอน โดยให้อัตรการสิ้นเปลืองที่ลดลง 5%

การเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของรถนั้น มีทั้งการเปลี่ยนชิ้นส่วนด้านหน้าของรถเพื่อเพิ่มความเพรียวลม การเพิ่มจุดเก็บเสียงและการปิดช่องลม การปรับตำแหน่งของยางรองตลอดทั้งคันรถ การเปลี่ยนเฟืองท้ายเกียร์อัตโนมัติรุ่นเดิม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสาร

รูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปเรียบร้อยนั้นดูแปลกตา แต่ก็ดูสวยงามใช่หยอก แถมยังเป็นการลดอายุของผลิตภัณฑ์ลงอย่างมาก แถมการออกแบบชิ้นส่วนด้านหน้ายังลดการต้านลมและช่วยลดเสียงจากลมปะทะด้านหน้าไปได้อีกมาก ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความดีงามประการหนึ่ง

ห้องโดยสารภายในมาพร้อมบรรยากาศการตกแต่งที่หรูหราอลังการในรุ่นไฮ คันทรี แต่ผมว่าบางทีมันก็เยอะเกินไปเล็กน้อย โดยเฉพาะโลโก้ ไฮ คันทรีที่ขอบประตูนั้นดูไม่สวยงามสักเท่าไรนัก ทำเอาบรรยากาศโดยรวมของห้องโดยสารดูดรอปลงไปเล็กน้อย

แผงคอนโซลคืออีกจุดที่ถือว่าดี เพราะครั้งนี้ โคโรลาโดมีแผงหน้าปัทม์ของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ จอสัมผัสตรงกลางทำงานได้อย่างดี การสัมผัสเป็นไปอย่างไหลลื่น ปุ่มกดวางตำแหน่งอย่างชัดเจน และฟอนท์ที่ติดไว้ก็อ่านได้อย่างง่ายดาย แม้มันจะดูธรรมดาจนทำให้รถไม่วัยรุ่นเท่าใดนัก

ต้องบอกกันก่อนว่าโดยโครงสร้างพื้นฐานของรถนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ทำให้ขนาดของรถไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงตำแหน่งการนั่งและการจัดวางเก้าอี้โดยสารในห้องโดยสารก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ปรับระยะให้พอดีได้วุ่นวายเพียงใดก็ยังมีให้เห็นเหมือนเดิม แม้จะมีเบาะไฟฟ้ามาแล้วก็ตาม

วิ่งออกจากกทม.ไปราชบุรีบนถนนหลวง พบว่าเครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่ดีกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด และก็ไม่ได้เลวร้ายกว่าเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรด้วยซ้ำ แถมสิ่งที่เพิ่มมาก็คือความนุ่มนวลเนียนของเครื่องยนต์ที่มีให้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

การเร่งจากจังหวะออกตัวไปถึงการเร่งแซงที่ความเร็วปานกลางนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ที่รู้สึกได้ก็คือเกียร์ที่แม้จะเปลี่ยนเฟืองท้ายมาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉลาดเพิ่มมากขึ้น อาการเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ต่อเนื่องยังมีให้สัมผัสได้สักเล็กน้อย คิดว่าน่าจะต้องจูนกันอย่างจริงจังอีกครั้ง

ช่วงล่างมีความนุ่มนวลขึ้นจากรุ่นเดิมเล็กน้อย เรียกว่าเป็นรถที่สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น แต่ที่ดีขึ้นแบบต้องร้องว้าวก็คือการเก็บเสียงในตัวรถ ที่เสียงเครื่องยนต์เข้ามาน้อยมาก แถมเสียงลมปะทะหน้ารถก็ไม่ได้ดังเกินไป เปิดเพลงฟังได้สบายไม่ต้องเร่งเสียง

ในรถนั้นมีเทคโนโลยีมากมายติดตั้งเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อกับไอโฟนและสิริได้อย่างเต็มที่ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท คอนโทรล ระบบเตือนการชนด้านหน้า รวมถึงการแสดงผลข้อมูลมากมายหลากหลายเต็มไปหมดจนบางทีก็อดสงสัยว่ามันจำเป็นหรือเปล่าไม่ได้

อย่างที่บอกแล้วว่าฝนตกหนักในช่วงที่เรากำลังทดสอบ ทำให้เราไม่ได้ลองในพื้นที่ออฟโรดอย่างเต็มรูปแบบ แต่เชฟโรเลตก็พาเราไปลุยในพื้นที่ธรรมชาติ มีวิ่งขึ้นลงเนิน วิ่งลงแม่น้ำ ผ่านป่าเขาลำเนาไพร เพื่อให้รู้ว่ารถคันนี้สามารถบุกตะลุยได้อย่างไม่ติดขัดอะไร

การปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบชับเคลื่อนสี่ล้อ 4H ทำได้ที่ความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไม่ต้องจอดรถ ช่วยเหลือรถในการขับลุยพื้นลื่นและพื้นขระขระได้เป็นอย่างดี แถมยังปรับไปได้ง่าย ๆ เชื่อว่าผู้ใช้งานทั่วไปที่คิดจะลองขับสี่ดูก็น่าจะทำได้แบบไม่มีปัญหา

โดยสรุปรวมความแล้ว 2016 Chevrolet Colorado ใหม่นั้น ได้รับการพัฒนามาอย่างมากกว่าที่เราคิด และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมไปหลายจุด หากเทียบกับรุ่นเดิมนั้น ก็ถือว่ารถรุ่นใหม่มีจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจหลายจุด และเป็นรถที่เรียกว่าน่าใช้งานขึ้นเยอะมาก

อย่างไรก็ตาม จุดติในเรื่องของเกียร์ก็ทำให้เรายังคิดว่าเชฟโรเลตควรจะต้องปรับปรุงรถคันนี้อีกสักเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อตลาดปิกอัพในประเทศไทยนั้นมีคู่แข่งมากหน้าหลายตา ก็แอบเสียดายเล็ก ๆ ที่เชฟโรเลตไม่ยอมทำตรงนี้มาเลยพร้อม ๆ กัน จะได้เคลียร์ครบจบทุกเรื่องไปทีเดียว

เอาเป็นว่า เชฟโรเลต โคโรลาโด รุ่นใหม่นี้ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมศึกรถปิกอัพในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยสินค้าที่พัฒนามาอย่างสดใหม่และสวยงามมากขึ้น คำถามคือราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ แว่วมาว่าไฮ คันทรี่ นั้น ราคาอาจจะทะลุหลักล้านบาทไปในท้ายที่สุด

ทั้งหมดนี้บอกเลยว่าต้องรอวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ รู้กันแน่นอน!!!

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่