ปอร์เช่ มีกำหนดเปิดตัวพานาเมร่าใหม่ พ.ย. 2016 นี้

ปอร์เช่ รายงานผลประกอบการ 6 เดือนที่ผ่านมาของปี 2016 ที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านผลกำไร ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนของพนักงานในเครือ เตรียมส่งรถยนต์ปอร์เช่ พานาเมร่า ใหม่ ช่งเดือนพฤศจิกายน นี้

ผลงานที่ยอดเยี่ยมในระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาของปอร์เช่ เพียง 6 เดือนแรกของปี 2016 Dr. Ing h.c. F. Porsche AG ประสบความสำเร็จจากการดำเนินงานที่สร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 8% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านยูโร ยอดการส่งมอบรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้น 3% หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 117,963 คัน ในขณะที่ตัวเลขยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 1% คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.9 พันล้านยูโร

ทั้งนี้ผลตอบแทนจากการขายทำได้ดีขึ้นเป็น 16.8% เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนที่เคยทำได้ที่ 15.6% ของผลงาน 6 เดือนแรกในปี 2015 ที่ผ่านมา โดยปริมาณบุคลากรของบริษัทเพิ่มมากขึ้นถึง 12% หรือคิดเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 26,191 ชีวิต “การมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า, การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและผลตอบแทนที่ได้จากงานขายอย่างมีคุณภาพ คือสิ่งสำคัญต่อเรายิ่งกว่าปริมาณการผลิตรถยนต์” ความคิดเห็นของ Lutz Meschke รองประธานและสมาชิกกรรมการบริหารผู้ดูแลในส่วนการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Oliver Blume ประธานกรรมการบริหาร ชี้ให้เห็นถึงอัตราการเติบโตที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทิศทางการดำเนินงานของปอร์เช่ในปัจจุบันยังคงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ปอร์เช่พานาเมร่า ใหม่ คืออีกหนึ่งผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นหลักที่ถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญยิ่งในการผลักดันบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้า “รถคันนี้คือยนตกรรมปอร์เช่อย่างแท้จริง” Oliver ให้ความเห็นต่อไปว่า “รถยนต์ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานสมรรถนะการขับขี่สไตล์สปอร์ตเข้ากันอย่างลงตัวกับความนุ่มนวลสะดวกสบายสูงสุดสำหรับการเดินทาง เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพของอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งเพียบพร้อมทุกอรรถประโยชน์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในทุกวันของชีวิต ผ่านงานออกแบบดีไซน์ที่มีสเน่ห์ดึงดูดทุกสายตา” ข้างต้นคือคำนิยามของรถยนต์รุ่นใหม่จาก CEO ของปอร์เช่ โดยปอร์เช่ พานาเมร่าใหม่ มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2016 นี้

นอกจากนี้ Lutz Meschke ยังได้คาดการณ์ถึงอนาคตของยอดการส่งมอบและยอดจำหน่ายรถยนต์ ซึ่งอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีงบประมาณ 2016 ในขณะที่บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพในส่วนของการผลิตเพิ่มเติม ด้วยงบประมาณนับพันล้านยูโร สำหรับโครงการรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบรุ่นใหม่จากปอร์เช่ ในนามว่า Mission E โดย Lutz ผู้ดูแลรับผิดชอบด้านการเงินของบริษัทหวังว่า ตัวเลขผลกำไรในปีนี้จะยังคงใกล้เคียงความสำเร็จที่เกิดขึ้นในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว Lutz Meschke ยังได้เน้นย้ำถึงวัตถุประสงค์หลักในการกำหนดทิศทางของบริษัทเพื่อการได้มาซึ่งผลตอบแทนจากการขายที่ 15% อย่างต่อเนื่องในอนาคต ด้วยแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 2025  (the new Strategy 2025) หัวใจสำคัญของกลยุทธ์การดำเนินงานนี้คือยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและนวัตกรรมการติดต่อสื่อสารผ่านระบบดิจิตอลในรถยนต์ โดยทั้ง 2 สิ่งนี้คือปัจจัยที่จะขาดไม่ได้ในการผลักดันให้เกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่