ตลาดรถอเนกประสงค์ไม่ได้แข่งขันกันเฉพาะบอดี้แบบรถเอสยูวีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเซกเมนท์เอ็มพีวีขนาดเล็กที่ดุเดือดมากขึ้นด้วยการเปิดตัวของโตโยต้า เซียนต้าใหม่
รถเอ็มพีวีประเภทนี้มักเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัว ด้วยราคาจำหน่ายที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับรถแฮทช์แบ็กซับคอมแพกต์ แต่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าและตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนและมีสัมภาระมากมาย
เราลองไปชมกันว่ารถแต่ละรุ่นที่เราหยิบมาให้ชมกันนั้น มีรุ่นใดโดดเด่นน่าคบหากันบ้าง
รถมินิเอ็มพีวีอย่างเออร์ติกาพัฒนาบนพื้นฐานของสวิฟต์ จึงมีรูปลักษณ์ที่มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะด้านหน้า มองในภาพรวมไม่ถือว่าโดดเด่นมากนัก ดีไซน์เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความทันสมัย กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตผสานความโฉบเฉี่ยวด้วยกันชนหน้าใหม่ที่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม ไฟ LED และไฟตัดหมอก บั้นท้ายมีสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
เข้ามาดูภายในห้องโดยสาร เออร์ติกาให้บรรยากาศที่คุ้นเคยเพราะยกโครงสร้างมาจากสวิฟต์เช่นกัน แผงคอนโซลสีทูโทน จัดวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันพอตัว มีช่องแอร์ตอนหลังติดตั้งที่เพดานให้ความเย็นสบายสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง คอนโซลสีทูโทน
แน่นอนว่ารถที่ออกแบบสำหรับคนรุ่นใหม่จะต้องมีระบบความบันเทิงมากพอสมควร ซูซูกิให้อุปกรณ์เชื่อมต่อยูเอสบี สามารถฟังเพลงในรูปแบบ MP3/ WMA รวมถึงปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12V สองตำแหน่ง บริเวณคอนโซลด้านหน้า และที่นั่งแถวสอง
จุดเด่นของเออร์ติกายังอยู่ที่การปรับเบาะได้อย่างหลากหลาย โดยเบาะตอนสองสามารถปรับระยะเลื่อนเข้า-ออกได้ ถึง 240 มม. และพับได้แบบ 60:40 ขณะที่เบาะแถวสามพับได้ 50:50 ถ้าต้องการเข้าไปนั่งเบาะแถวสาม เพียงดันคันโยกขึ้น พนักเก้าอี้จะล้มตัวลงและเลื่อนมาด้านหน้าโดยอัตโนมัติ จึงสามารถเข้าถึงที่นั่งแถวที่ 3 ได้ง่ายดาย
หัวใจขับเคลื่อนของเออร์ติกาใช้เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร วีวีทีให้กำลัง 95 แรงม้า และแรงบิด 130 นิวตันเมตร รองรับเชื้อเพลิง E20 มาตรฐานไอเสียยูโร 4 เครื่องยนต์บล็อกนี้พัฒนาต่อมาจากสวิฟต์ อีโค แต่ขยายความจุเพิ่ม ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าควบคุมง่าย แม้จะมีผู้โดยสารเต็มพิกัด 7 ท่านก็ยังผ่อนแรงและลดความเมื่อล้าในการขับขี่
ในส่วนของระบบความปลอดภัย เออร์ติกามาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์อีบีดี สัญญาณเตือนขณะถอยหลัง ตัวถังมีความแข็งแกร่งปลอดภัยด้วยโครงสร้าง TECT
ราคาจำหน่ายของซูซูกิ เออร์ติกา มีดังนี้
Dreza/AT 7.15 แสนบาท
GL/AT 6.55 แสนบาท
สี Pearl Snow White (ZQZ) เพิ่มเงินจำนวน 5,000 บาท ขณะที่Dreza สี Pearl Twilight Violet (ZQY) เพิ่มเงินจำนวน 5,000 บาท
สำหรับบททดสอบขับซูซูกิ เออร์ติกา คลิกชมได้ที่นี่
จริงๆแล้วรถอเนกประสงค์ระดับเดียวกันนี้ ฮอนด้ามีทั้งบีอาร์-วีและโมบิลิโอ แต่เราขอหยิบยกโมบิลิโอที่มีสไตล์ตัวถังใกล้เคียงกับเซียนต้าและเออร์ติกามากกว่ามาเปรียบเทียบกัน
โมบิลิโอเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพกต์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รองรับพลังงานทางเลือก E85 ติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้วในรุ่นท๊อป มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมการทรงตัวและระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันในทุกรุ่น
โมบิลิโอใหม่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไอ-วีเทค 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที โดยมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์ซีวีทีใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ตอบสนองทุกการขับขี่และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน
ฮอนด้า โมบิลิโอ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นอาร์เอส ซีวีที ราคาจำหน่าย 7.55 แสนบาท กระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่แบบแอลอีดี ไฟตัดหมอกคู่หน้า กันชนหน้าและหลังแบบสปอร์ต พร้อมสเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่นั่งแบบ 3 แถว และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ล้ออัลลอยมีขนาด 15 นิ้ว
รุ่นรองลงมาคือ วี ซีวีที มาพร้อมเบาะนั่งแบบ 3 แถว พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ราคา 6.99 แสนบาท โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ เบาะนั่งแถวที่สองสามารถพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบแบบจังหวะเดียว รวมถึงสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ถึง 100 มิลลิเมตร
นอกจากนี้ เบาะนั่งแถวที่สาม ยังให้พื้นที่วางขาที่กว้างสบาย เบาะนั่งพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะ ส่วนพนักพิงยังปรับเอนได้ถึง 2 ระดับ และแม้จะมีผู้โดยสารนั่งครบในทุกที่นั่ง โมบิลิโอใหม่ ยังสามารถจุสัมภาระที่บริเวณห้องสัมภาระด้านท้ายได้ถึง 223 ลิตร ซึ่งเมื่อพับเบาะนั่งแถวที่สอง จะสามารถจุสัมภาระได้ถึง 1,214 ลิตร
ระบบความปลอดภัยถือว่าพอตัว ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก กล้องส่งภาพด้านหลังช่วยเพิ่มทัศนวิสัย และโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Con
โมบิลิโอ ใหม่ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) และสีใหม่ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ในทุกรุ่น สีขาวออร์คิด (มุก) เฉพาะในรุ่น อาร์เอสและวี และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะในรุ่นเอส
ราคาจำหน่ายของฮอนด้า โมบิลิโอ มีดังนี้
RS CVT 7.55 แสนบาท
V CVT 6.99 แสนบาท
S CVT 6.59 แสนบาท
S MT 5.97 แสนบาท
ทั้งนี้ สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
ชมบททดสอบลองขับฮอนด้า โมบิลิโอ คลิกเลย
ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ เซียนต้าเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมแนวคิด “Bring it All” ทำนองว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยโตโยต้าระบุว่าเป็นรถประเภท Compact Multi-purpose Vehicle ที่ถูกออกแบบให้มี 3 แถว 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะนั่งเพื่อบรรทุกสัมภาระ และสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าด้วยประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ เจาะกลุ่มลูกค้าทั้งผู้ชายและผู้หญิงสมัยใหม่อายุน้อยกว่า 30
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบด้วยคอนเซปต์ล้ำสมัยตลอดทั้งคัน โดยได้แรงบันดาลใจจาก “Urban Trekking Shoes” หรือ “รองเท้าเดินป่าสมัยใหม่” จากรูปทรง และเส้นสายของรองเท้า สะท้อนให้เห็นถึงคนรุ่นใหม่ที่รักการท่องเที่ยว ประกอบกับไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลาย ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED ไฟหรี่ และไฟท้าย LED แบบ Light Guiding กระจกมองข้างพับ/ปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยมีขนาด 16 นิ้ว
การออกแบบภายในห้องโดยสารเน้นสันเหลี่ยมคมและดีไซน์ที่ไม่สมมาตร ทำให้ดูแปลกตาและทันสมัยพอตัว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายประกอบด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและ MID เครื่องเล่น DVD / CD / MP3 / WMA พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแบบ Digital มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron จอแสดงข้อมูลขับขี่ MID (Multi-information display) แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) เบาะพับง่ายแค่เพียงสัมผัส (1-Touch Tumble) มีที่เก็บของบริเวณคอนโซลหน้า พร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box)
เครื่องยนต์ใช้รหัส 2NR-FE ขนาด 4 สูบ 1.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i พละกำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊ส โซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด
ความปลอดภัยมีทั้งกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะ (อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษเพิ่มเติม) ถุงลมนิรภัย 3 ตำแหน่ง ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) และระบบป้องกันการออกตัวแบบผิดวิธี (Drive Start Control)
โตโยต้าจะเปิดตัวเซียนต้าสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการที่งานบิ๊ก มอเตอร์เซล ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 20 – 28 สิงหาคมนี้ โดยเซียนต้า มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น 4 สี (Orange Metallic/ Silver Metallic/ Super White/ Attitude Black Mica) และมีเป้าหมายการขายในปี 2559 ที่ 1,700 คัน
ราคาจำหน่ายของโตโยต้า เซียนต้า มีดังนี้
1.5 V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 8.65 แสนบาท
1.5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 7.50 แสนบาท
ความคิดเห็น