ฮุนไดประกาศเผยโฉมไอ30 รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เจนเนอเรชั่นที่ 3 ออกมาแล้ว ก่อนการเปิดตัวจริงสู่สาธารณชนที่งานปารีส มอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือนนี้
ไอ30 รุ่นใหม่มาพร้อมกับลุคที่ทันสมัยยิ่งขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่เอกลักษณ์ดีไซน์ล่าสุดของฮุนไดซึ่งจะถูกใช้กับรถหลายรุ่นในอนาคต รถแฮทช์แบ็กรุ่นนี้ได้รับการออกแบบ พัฒนา ผลิตและทดสอบสมรรถนะในยุโรปเพื่อทำตลาดยุโรปโดยเฉพาะ
มิติตัวถังมีขนาดยาว 4,340 มม. กว้าง 1,795 มม. และสูง 1,455 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,650 มม. นั่นหมายความว่าไอ30 มีขนาดยาวกว่า กว้างกว่า และเตี้ยกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย ขณะที่ฐานล้อยังคงเท่าเดิม พื้นที่จัดเก็บสัมภาระอยู่ที่ 395 ลิตร มากกว่าโฟล์คสวาเกน กอล์ฟอยู่ 15 ลิตร โดยสามารถเพิ่มเนื้อที่เป็น 1,301 ลิตรได้เมื่อพับเบาะแถวหลังลง
ภายในห้องโดยสารถูกยกการออกแบบใหม่หมด บนคอนโซลมีหน้าจอ 8 นิ้วเป็นอ็อปชั่นเสริม แสดงผลระบบการเชื่อมต่อและระบบนำทาง รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ รวมถึงการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย การออกแบบค็อกพิทยังเน้นความกว้างขวาง และสามารถเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกได้ด้วยการติดตั้งพาโนรามิก ซันรูฟเป็นอ็อปชั่นพิเศษ
อ็อปชั่นต่างๆ ยังรวมถึงกล้องมองหลัง เครื่องเสียงพรีเมียม การเชื่อมต่อบลูทูธ และฟังก์ชั่น My Music พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นเป็นแบบสามก้านซึ่งสามารถปรับอุณหภูมิได้
ฮุนได ไอ30 ซึ่งจะออกแข่งขันกับโฟล์คสวาเกน กอล์ฟ ฟอร์ด โฟกัส เรโนลต์ เมกาน และโอเปิล แอสตร้าในยุโรปมาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉินและแจ้งเตือนการชนด้านหน้า ระบบครูสคอนโทรลแบบปรับความเร็วได้ ระบบตรวจจับมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง ระบบช่วยรักษาการเปลี่ยนเลน และระบบแจ้งเตือนความเร็วสูงสุด รวมถึงไฟสูงอัตโนมัติ
ฟีเจอร์สำคัญที่เพิ่มเข้ามาคือระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ ซึ่งจะตรวจจับความเหนื่อยล้าหรือการขาดสมาธิของผู้ขับขี่ พร้อมกับการวิเคราะห์องศาพวงมาลัย ตำแหน่งการขับ และระยะเวลาการขับ โดยจะแจ้งเตือนเป็นเสียงหรือข้อความบนหน้าจอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
เครื่องยนต์จะมีเบนซิน 3 รุ่นและดีเซล 3 รุ่นให้เลือกสรร เริ่มจากเบนซิน MPI ขนาด 1.4 ลิตร พลัง 100 แรงม้า แรงบิด 134 นิวตันเมตร ตามมาด้วยรุ่น 3 สูบ 1.0 ลิตร พลัง 120 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร และรุ่นท็อปของเบนซินขนาด 1.4 ลิตร T-GDI เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 140 แรงม้า แรงบิด 242 นิวตันเมตร
ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลมีบล็อก 1.6 ลิตร ให้พละกำลัง 3 ระดับได้แก่ 95 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร 110 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และ 136 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร พร้อมกับมีรุ่น 1.4 MPI และรุ่น 1.0 TGDi ให้เลือกใช้ด้วย ส่วนระบบส่งกำลังมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ DCT แบบ 7 สปีดให้เลือกโดยขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น