เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำยอดขายในตลาดพรีเมียม หลังจากสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1.56 แสนคันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นการเติบโตจากเดือนก่อนหน้าถึง 11.8% และเป็นการสร้างสถิติยอดขายประจำเดือนติดต่อกันมานานถึง 3 ปีครึ่งแล้ว ขณะที่ยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคมอยู่ที่ 1,326,635 คัน ซึ่งขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 11.7%
ความสำเร็จของค่ายรถตราดาวสามแฉกอยู่ที่การเติบโตอย่างกระโดดของรถเอสยูวีที่คิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายทั้งหมดหรือ 56,286 คันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยรถที่มีผลงานดีที่สุดคือจีแอลเอ ซึ่งจะได้รับการปรับโฉมใหม่ในปีหน้า ตามมาด้วยรุ่นจีแอลซี ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย
ทั้งนี้ ยอดขายรถเอสยูวีของเมอร์เซเดส-เบนซ์เติบโตถึงเท่าตัวนับตั้งแต่ปี 2011 โดยมียอดขายรวมแล้วทั้งหมดกว่า 4 ล้านคัน
โอลา คัลเลนเนียส สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเดมเลอร์ เอจีกล่าวว่า “ความนิยมในรถเอสยูวีเติบโตเพิ่มขึนทุกปี และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต เราจึงมีแผนการเปิดตัวรถใหม่หรือปรับปรุงรถทีมีอยู่เดิมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเริ่มจากเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีแอลซี43 คูเป้ที่จะเริ่มจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า ตามมาด้วยการปรับโฉมจีแอลเอ”
สำหรับในปี 2018 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะแนะนำจีแอลอี รถเอสยูวีรุ่นใหม่ที่มีทั้งขุมพลังเบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น