กระแสรถยนต์นั่งเอนกประสงค์หรือเอสยูวีนั้นกำลังมาแรงมากในตลาดโลกรวมถึงในประเทศไทยเองก็ได้รับความนิยมเช่นกันโดย เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีการเติบโตในกลุ่มรถเอสยูวีมากถึงเกือบ 400%
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ นั้นมีการเติมโตที่สูงถึง 350-400% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
เหตุหนึ่งเป็นเพราะ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นั้นมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอสยูวีที่ครอบคลุม มีให้เลือกทั้งกลุ่มเป็นแบบออฟโร้ดรวมถึงกลุ่มที่ตอบสนองได้ทั้งบนถนนและออฟโร้ด สำหรับกลุ่มคูเป้ที่เป็นกลุ่มรถยนต์ในฝัน(Dream Cars) อย่าง จีเเอลซี คูเป้ และ จีแอลอี คูเป้ ก็ช่วยให้เอสยูวีกลายเป็นรถยนต์คันแรกหรือคันหลักของหลายๆ คน จากที่เอสยูวีมักจะเป็นรถยนต์คันที่สอง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้แยกกลุ่มรถเอสยูวีออกมาเป็นอีกหนึ่งเซกเมนต์หลักของค่ายโดยแยกออกมาจากกลุ่มรถยนต์หรูหรือ Luxury Cars เนื่องด้วยเป็นกลุ่มที่มีความชัดเจนในการทำตลาดมากยิ่งขึ้นโดยคิดเป็นสัดส่วนยอดขายถึง 15-20% ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในปัจจุบัน
สำหรับรถยนต์พลังงานทางเลือกนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีกลุ่มรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด เอาไว้รองรับความต้องการของลูกค้าซึ่งในรถยนต์ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งมอบในเดือนที่ผ่านมากว่า 1,200 คันนั้นเป็นรถที่มีเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริดถึงกว่า 500 คัน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ของว่าพลังงานทางเลือกไม่ใช่เรื่องของนาคตแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน แต่ถึงแม้แต่ละบริษัทจะมีความพร้อมด้านทรัพยากรมากแค่ไหน แต่การให้ความรู้และข้อมูลในการใช้งานที่ถูกต้องแก่ลูกค้าเพื่อให้เกิดการยอมรับเป็นเปิดใจก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน
อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ คลิกที่นี่
ความคิดเห็น