เมอร์เซเดส-เบนซ์จัดเต็มที่งานปารีส มอเตอร์โชว์ด้วยการเผยโฉมเจนเนอเรชั่น อีคิว รถเอสยูวีต้นแบบพลังงานไฟฟ้าที่จะกำหนดอนาคตรถพลังงานทางเลือก
เจนเนอเรชั่น อีคิว มาพร้อมกับสัดส่วนตัวถังโค้งมนกลมกลึง เส้นสายหลังคาลาดเอียงให้ความรู้สึกปราดเปรียวและทันสมัย กระจกมองข้างแบบดั้งเดิมถูกแทนที่ด้วยกล้อง ใบปัดน้ำฝนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เช่นเดียวกับมือจับเปิดประตูถูกลักพาตัวหายไปทำให้ด้านหน้าและด้านข้างตัวรถดูสะอาดเกลี้ยงเกลา
ล้ออัลลอยของรถต้นแบบรุ่นนี้ใช้ขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้ว ตัวถังสาดสีโดดเด่นซึ่งทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ระบุว่าเป็นโทน “alubeam silver” ที่มีการแฝงเฉดสีฟ้าบ่งบอกว่าเป็นรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หลังคาเป็นกระจกพาโนรามิกบานยักษ์ เปิดรับแสงธรรมชาติทำให้ห้องโดยสารมีความกว้างขวางและโปร่งโล่งสบาย
ภายในห้องโดยสารออกแบบเน้นความล้ำอนาคต สะดุดตาด้วยหน้าจอดิจิตอลขนาด 24 นิ้ว และมีหน้าจออีกตัวบนคอนโซลกลาง ทั้งสองตัวรองรับการทำงานระบบสัมผัสจึงแทบไม่มีสวิทช์หรือปุ่มควบคุมแบบดั้งเดิมเหลืออยู่ เคบินของรถต้นแบบรุ่นนี้จึงดูเรียบง่ายและเปี่ยมด้วยฟังก์ชั่น
พวงมาลัยแบบสามก้านยังมีหน้าจอ OLED ขณะที่แผงประตูมีหน้าจอขนาดกำลังพอเหมาะซึ่งแสดงภาพของกล้องที่ติดตั้งแทนกระจกมองข้าง
เนื่องจากเดมเลอร์เป็นเจ้าของบริษัทพัฒนาแผนที่อย่าง HERE จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่มีการติดตั้งระบบนำทางผ่านดาวเทียมที่ใช้ซอฟต์แวร์ที่ซื้อมาจากโนเกีย โดยทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับการทำงานของแบตเตอรี่ที่จะช่วยคำนวณว่าผู้ขับขี่จะไปถึงจุดหมายก่อนที่พลังงานไฟฟ้าจะหมดหรือไม่
สำหรับระบบขับเคลื่อนของเจนเนอเรชั่น อีคิว เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ติดตั้งที่เพลาล้อหน้าและหลัง ให้พละกำลังสูงสุด 402 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร เพียงพอต่อการพารถเอสยูวีรุ่นนี้ให้ไปถึง 100 กม.ต่อชม. ภายใน 5 วินาที
ด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ไว้ใต้พื้นรถ รถเอสยูวีรุ่นนี้สามารถขับเคลื่อนได้ไกลสูงสุด 500 กม. และมีระบบชาร์จไฟเร่งด่วนกรณีที่ไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมดลง โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ระบุว่าการชาร์จไฟเร่งด่วนเพียง 5 นาทีสามารถทำให้ตัวรถโลดแล่นได้ไกล 100 กม.
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น