หลังจากมีภาพหลุดและทีเซอร์ออกมามากมาย บีเอ็มดับเบิลยูได้ฤกษ์เปิดตัวซีรีส์ 5 เจนเนอเรชั่นใหม่ออกมาแล้ว มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครัน
ซีรีส์ 5 รุ่นใหม่รหัสตัวถังจี30 (G30) พัฒนาบนแพลทฟอร์ม CLAR แบบเดียวกับซีรีส์ 7 รูปร่างหน้าตายังคงถ่ายทอดดีเอ็นเอของบีเอ็มดับเบิลยูมาอย่างครบครัน สัดส่วนทรวดทรงเหมือนกับซีรีส์ 7 แต่ซีรีส์ 6 มีตัวถังขนาดเล็กกว่าและมีความปราดเปรียวมากกว่าด้วย โดยมีค่าแรงเสียดทานอากาศเพียง 0.22 Cd เท่านั้น ถือเป็นมาตรใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู
มิติตัวถังของซีรีส์ 5 ใหม่อยู่ที่ยาว 4,936 มม. กว้าง 1,868 มม. สูง 1,479 มม. ระยะฐานล้อ 2,975 มม. ซึ่งใหญ่โตรุ่นเดิมในทุกด้าน ขณะเดียวกัน รุ่นฐานล้อยาวยังเตรียมออกทำตลาดจีนในภายหลังด้วย
สีสันตัวถังภายนอกมีให้เลือกถึง 21 เฉดสี ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ 17 – 20 นิ้ว กรอบไฟหน้าแอลอีดีเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แพ็คเกจตกแต่งมีทั้งสปอร์ตไลน์ ลักชัวรี่ไลน์ และเอ็มสปอร์ตซึ่งมาพร้อมช่วงล่างโหลดเตี้ยลงกว่าเดิม
ระบบขับเคลื่อนมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด บล็อกตั้งแต่ 4 สูบไปจนถึง 8 สูบ ความจุมีให้เลือกเริ่มจาก 2.0 ลิตรถึง 4.4 ลิตร ทุกรุ่นพ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จและใช้หัวฉีดตรงไดเรคอินเจคชั่น มีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ
สำหรับการเปิดตัวสู่ตลาดทั่วโลกในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีเครื่องยนต์ 4 รุ่น ได้แก่
530i: เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 252 แรงม้า 350 นิวตันเมตร
540i: เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร 340 แรงม้า 450 นิวตันเมตร
520d: ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 190 แรงม้า 400 นิวตันเมตร
530d: ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร 265 แรงม้า 620 นิวตันเมตร
หลังจากนั้น 3 เดือนจะตามมาด้วยขุมพลังดังนี้
530e iPerformance: เบนซิน ปลั๊กอินไฮบริด 4 สูบ 2.0 ลิตร 252 แรงม้า 420 นิวตันเมตร
520d EfficientDynamics Edition: ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 190 แรงม้า 400 นิวตันเมตร
M550i xDrive: เบนซิน วี8 4.4 ลิตร 462 แรงม้า 650 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดสำหรับรุ่น 520d ส่วนรุ่นอื่นที่เหลือจะใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
อัตราเร่งที่น่าสนใจอยู่ที่รุ่นท็อป M550i xDrive สามารถออกตัวจาก 0-100 กม.ต่อชม. ได้ในเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น ขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าได้ระยะทาง 45 กม. ปล่อยไอเสียเพียง 46 กรัมต่อกม.
ความโดดเด่นของซีรีส์ 5 ใหม่คือการผสมผสานวัสดุที่ใช้ประกอบโครงสร้างและตัวถังซึ่งช่วยลดน้ำหนักลงได้ถึง 100 กม. และมีความเหนียวแน่นแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ช่วยประหยัดน้ำมันและเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ โดยวัสดุดังกล่าวประกอบด้วยอลูมิเนียม เหล็กกล้าความทนทานสูง และแม็กนิเซียมสำหรับการผลิตโครงสร้าง
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน ด้านหลังไฟว์ลิงค์ ซึ่งคล้ายกับรุ่นเดิมแต่ถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มีช็อกอัพแบบปรับได้เป็นอ็อปชั่นเสริม พร้อมกับมีระบบล้อหลังเลี้ยวได้อยู่ในลิสต์อ็อปชั่นด้วยในชื่อ ‘Integral Active Steering’
ด้านระบบความปลอดภัยอัดแน่นตามสไตล์รถพรีเมียม ทั้งการสื่อสารระหว่างรถยนต์ช่วยแจ้งเตือนสถานการณ์ด้านหน้า การแจ้งเตือนการชนด้านข้าง ระบบช่วยหักหลบสิ่งกีดขวางซึ่งจะควบคุมพวงมาลัยให้สามารถหลบสิ่งกีดขวางด้านหน้าโดยไม่สูญเสียเสถียรภาพตัวรถภายใต้ความเร็วไม่เกิน 160 กม.ต่อชม. ระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ผิดเส้นทาง อาทิบนถนนวันเวย์ ระบบนำทางแบบปรับตามพฤติกรรมผู้ขับขี่ ตลอดจนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อื่นๆ อีกมากมาย
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น