เผยผู้ขับขี่ไม่ชอบใช้ “ระบบนำทางในรถ” และ “ระบบสั่งการด้วยเสียง”

เจ.ดี. พาวเวอร์เปิดเผยผลสำรวจการใช้งานระบบนำทาง อินโฟเทนเมนท์ และเทคโนโลยีต่างๆ ในรถยนต์ที่น่าสนใจสำหรับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

การสำรวจดังกล่าวสอบถามความคิดเห็นเจ้าของรถภายใน 90 วันหลังจากได้รับรถ โดยมีการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ โดยเน้นที่ระบบควบคุมภายในตัวรถ และระบบความปลอดภัย

ผลลัพธ์ที่ได้พบว่า ลูกค้าโดยทั่วไปมีความพึงพอใจกับเทคโนโลยีในรถใหม่ของพวกเขา โดยมีคะแนนอยู่ที่ 730 คะแนนจากทั้งหมด 1,000 คะแนนเต็ม อย่างไรก็ตาม ระบบนำทางรั้งท้ายด้วยคะแนนเฉลี่ยที่ 687 คะแนน

กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งระบุว่า พวกเขาไม่เคยใช้ระบบนำทางภายในรถยนต์เลย แต่หันไปใช้ระบบนำทางในโทรศัพท์มือถือแทน นอกจากนี้ เกือบ 1 ใน 3 ของผู้ใช้รถระบุว่าพวกเขาใช้ระบบนำทางเพียงแค่สองสัปดาห์แรกเท่านั้น ก่อนที่จะกลับไปใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่

ปัญหาใหญ่หลวงของระบบนำทางในรถยนต์คือการค้นหาสถานที่ใหม่ ซึ่งต้องใช้การค้นหาผ่านเมนูหลายขั้นตอนเกินไป โดยลูกค้าส่วนใหญ่เกิดความสับสนกับเมนู “จุดหมายที่น่าสนใจ” ซึ่งไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปลายทางมากเพียงพอ

ขณะเดียวกัน การสั่งการด้วยเสียงก็เป็นสิ่งที่ “ทำให้หงุดหงิด” เนื่องจากระบบมักสับสนและจะต้องพูดสั่งการซ้ำหลายครั้ง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ไม่สามารถขยับมือไปสั่งการหน้าจอได้เมื่อรถกำลังเคลื่อนไหว ทำให้ต้องใช้การสั่งการด้วยเสียงแทน

เจ.ดี. พาวเวอร์เชื่อว่า ระบบอินโฟเทนเมนท์อย่างแอนดรอยด์ ออโต้ และแอปเปิล คาร์เพลย์ที่ถอดแบบการใช้งานมาจากสมาร์ทโฟนนั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เจ้าของรถส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าพวกเขามีระบบดังกล่าวในรถของตนเอง

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่