หัวเรือใหญ่ของฟอร์ดออกมายอมรับว่า บริษัทกำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่จะให้ความสำคัญกับรถยนต์นั่งน้อยลง และมุ่งเน้นไปที่รถอเนกประสงค์เอสยูวีและรถกระบะที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องแทน
มาร์ก ฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟอร์ดกล่าวยืนยันการยกเลิกสายการผลิตรถยนต์นั่งในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2018 เพื่อที่จะเปิดทางให้การผลิตรถอเนกประสงค์ซึ่งตลาดกำลังขยายตัวและลูกค้ายังคงให้ความสนใจรถประเภทนี้มากขึ้น
"การดำเนินกลยุทธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าอาจมีขีดจำกัด เพราะเราต้องให้ความสำคัญกับเทรนด์ของตลาดและความต้องการของลูกค้าเป็นหลักด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะหรือรถเอสยูวี เราจะต้องมีแผนการที่รอบคอบ” ฟิลด์กล่าว
ถึงแม้ฟอร์ดจะไม่ผลิตรถยนต์นั่งที่โรงงานในมิชิแกนหลังปี 2018 แต่แหล่งข่าววงในชี้ว่า โรงงานดังกล่าวจะไม่ปิดทำการ แต่จะปรับเปลี่ยนเครื่องมือเพื่อรองรับการผลิตรถกระบะเรนเจอร์ และบรองโก เจนเนอเรชั่นต่อไป
สำหรับในปี 2016 ฟอร์ดมีสัดส่วนยอดขายรถยนต์นั่งในอเมริกาอยู่ที่ 28% ซึ่งลดลงจากปีที่ 2006 ซึ่งอยู่ที่ 37% แต่ฟิลด์ก็ยืนยันว่าฟอร์ดจะไม่ยกเลิกการทำตลาดรถยนต์นั่งไปทั้งหมด เนื่องจากมีความจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่ครนครันทุกไลน์อัพ
“คุณไม่มีทางรู้ว่าความต้องการของลูกค้าจะมุ่งไปในทิศทางใด ถือว่ามีความสำคัญที่จะต้องมีผลิตภัณฑ์ครบทุกเซกเมนท์ เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจ หรือกับนโยบายภาครัฐ หรือกับความต้องการของลูกค้า เราจะต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเราให้ใหม่อยู่เสมอ” ซีอีโอของฟอร์ดกล่าว
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น