กลุ่มเรโนลต์-นิสสัน อัลลายแอนซ์ประกาศเข้าครอบครองกิจการของมิตซูบิชิอย่างเป็นทางการด้วยมูลค่า 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
นิสสันจะเข้าครอบครองหุ้นของมิตซูบิชิสัดส่วน 34% ขณะที่คาร์ลอส กอส์นจะขึ้นเป็นประธานคณะกรรมการของมิตซูบิชิตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับที่เขาเป็นในเรโนลต์และนิสสัน
“การขยายกลุ่มพันธมิตรยานยนต์ในครั้งทำให้เราเป็นหนึ่งในกลุ่มยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยยอดขายมากกว่า 10 ล้านคันต่อปี ทำให้เรามีศักยภาพด้านต้นทุนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก” กอส์นระบุในแถลงการณ์ยืนยันการปิดดีลเทคโอเวอร์ครั้งสำคัญ
ความร่วมมือกันครั้งนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เรโนลต์-นิสสัน และมิตซูบิชิ โดยเฉพาะในด้านการแบ่งปันต้นทุน การจัดซื้อ การแบ่งปันโรงงานผลิต ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ร่วมกัน ทั้งสามแบรนด์สามารถใช้แพลทฟอร์มร่วมกันได้ ขณะที่ระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ก้าวหน้าของมิตซูบิชิก็จะถูกถ่ายทอดไปสู่นิสสันและเรโนลต์ด้วย
กอส์นจะเริ่มดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ของมิตซูบิชิในเดือนธันวาคมนี้ และคาดว่าจะปรับลดต้นทุนขนานใหญ่ โดยข่าวรายงานว่านิสสันและมิตซูบิชิหวังว่าจะปรับลดต้นทุนได้ 231 ล้านเหรียญและ 240 ล้านเหรียญตามลำดับสำหรับปี 2017
นอกจากการดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ของกอส์นแล้ว ผู้บริหารระดับสูงของนิสสันอีก 3 คนจะดำรงตำแหน่งคณะกรรมการของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมถึงตำแหน่งสำคัญอย่างประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา ขณะที่โอซามุ มาซูโกะยังคงเป็นประธานกรรมการของมิตซูบิชิเช่นเดิม
นิสสันและมิตซูบิชิประกาศเริ่มเจรจาดีลและบรรลุผลเบื้องต้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมิตซูบิชิยอมรับว่าทำการ “บิดเบือน” ค่าการทดสอบความประหยัดน้ำมันในรถรุ่นเล็กที่จำหน่ายในญี่ปุ่น พร้อมกับยอมรับกระทำมาตั้งแต่ปี 1991 เลยทีเดียว
การถูกเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ยังอาจทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์สมีศักยภาพมากขึ้นในการเร่งการเติบโตในตลาดสหรัฐอเมริกาด้วย
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น