เทสล่า มอเตอร์ส ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถหรูในสหรัฐอเมริกา หลังจากสามารถทำยอดขายเหนือคู่แข่งจากเยอรมนีในไตรมาสที่สามที่ผ่านมา
ค่ายรถพลังไฟฟ้าจากแคลิฟอร์เนียสามารถทำยอดขายรถโมเดล เอสได้ที่ 9,156 คัน เหนือกว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสที่มียอดขาย 3,138 คัน และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ที่มียอดขาย 3,634 คัน ด้านออดี้ เอ7 มียอดขายอยู่ที่ 1,532 คัน
โมเดล เอสและซีรีส์ 7 เป็นรถเพียงสองรุ่นจากรถพรีเมียม 8 รุ่นที่มียอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยโมเดล เอสมีการเติบโตมากถึง 59% และครองส่วนแบ่งตลาดพรีเมียมอยู่ที่ 34% ด้านซีรีส์ 7 มีส่วนแบ่งตลาด 14% แต่มีการเติบโตพุ่งกระฉูด 219% เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ออกทำตลาด
ทั้งนี้ ยอดขายที่พุ่งสูงของโมเดล เอสมาจากการปรับโฉมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับเพิ่มรุ่นย่อยพี100ดี ตัวท็อป ซึ่งสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 2.5 วินาที ขณะที่รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ยอดขายที่แข็งแกร่งของโมเดล เอส ผนวกกับการทำตลาดโมเดล 3 รถซีดานพลังไฟฟ้ารุ่นเล็กจะช่วยขับเคลื่อนเทสล่าให้บรรลุเป้าหมายยอดการผลิต 5 แสนคันต่อปีได้ภายในปี 2018 โดยปัจจุบันเทสล่ามียอดขายอยู่ที่ 1 แสนคันต่อปี
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น