ทดสอบการขับขี่รถยนต์อเนกประสงค์อีกรุ่นที่น่าใจไม่น้อยทีเดียวในตลาดประเทศไทย กับ MG GS รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมขุมพลังเทอร์โบ และความหล่อเหลาที่ไม่เหมือนใคร
กลับมาพบอีกครั้งกับ บทความทดสอบการขับขี่รถยนต์จาก ออโต้สปินน์ นะครับ หากพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ หรือที่เราเรียกๆ กันว่า เอสยูวี หรือจะครอสโอเวอร์ อะไรก็ตามแต่
ต้องยอมรับว่าตลาดรถยนต์ทุกวันนี้ รถยนต์ประเภทนี้มีอัตรากราเติบโตสูงมากทีเดียว เนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้งานรถยนต์ของคนเราที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงการปรับตัวของค่ายรถยนต์
ที่ออกแบบให้รถยนต์ประเภทนี้ มีความน่าใช้งานมากขึ้น ทั้งความสวย ความสปอร์ต ไม่แพ้รถเก๋ง รวมไปถึงความกว้างขวาง ในการขนย้ายสัมภาระ ความจุที่มากกว่า เลยไม่แปลกใจที่รถยนต์เซกเมนต์นี้ โตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมไปถึงบ้านเรา
วันนี้เราได้รถยนต์ เอสยูวี รุ่นใหม่จากแบรนด์ เอ็มจี อย่าง MG GS กับคำนิยามที่ว่า Follow No Others หรือ เป็นในแบบที่ไม่ตามใคร แต่จะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ขนาดไหน เดี๋ยววันนี้เราจะมาทดสอบกัน
เริ่มต้นจากภายนอก มีเอกลักษณ์เป้นของตนเอง สวยแปลกตาและ โดดเด่นบนท้องถนน
เอ็มจี จีเอส มีการออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดรามิค (Brit Dynamic) ที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเช่นเดียวกับ เอ็มจี รุ่นอื่นๆ ทุกรุ่น โดยเฉพาะฝากระโปรงที่มีเส้นสายรูปตัว V ลากมาจรดถึง โลโก้ MG บริเวณกระจังหน้า
ทำให้การมองจากด้านหน้ารถยนต์มีมิติ และความรู้สึกที่สปอร์ต รวมไปถึงชุดโคมไฟหน้าที่ ยังแอบเสียดายนิดหน่อยที่ยังเป็นโคมแบบ โปรเจคเตอร์ ฮาโลเจน แต่มาพร้อมระบบปรับไฟ สูง-ต่ำ และ เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ
พร้อมเพิ่มเติมความโดดเด่นและความปลอดภัยบนท้องถนนด้วย ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่งไลท์ บริเวณกระจังหน้าสีดำด้านส่วนล่าง ใต้ชุดโคมไฟตัดหมอก
รวมไปถึงด้านท้าย ที่มาพร้อมชุดโคมไฟแบบ LED ชุดไฟทับทิมด้านล่าง รวมไปถึงกันชนสีดำด้านออกแบบสไตล์เดียวกันกับด้านหน้ารถยนต์ พร้อมท่อไอเสียคู่ รูปทรงเหลี่ยมตามดีไซน์รถยนต์รอบคัน
หากพูดโดยรวมๆ แล้ว MG GS ถือเป็น เอสยูวี ที่มีการออกแบบที่สวยงาม โดดเด่น อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว แม้การมองในบางมุม อาจจะรู้สึกแปลกตาไปบาง เช่นด้านท้ายรถยนต์หากมองแบบตรงๆ อาจจะทำให้ ดูว่าตัวถังเล็ก โย่งๆ ไป
ภายในดีไซน์เน้นความเรียบ หรู แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน
เข้ามาในส่วนภายใน แม้เปิดประตูออกมา จะไม่ถึงขั้นร้องว้าวแต่หากเข้ามานั่งใช้งานจริงๆ ทั้งขับขี่ และโดยสาร จะทราบทันทีว่า เจ้า MG GS ก็มีดีไม่แพ้ใครแน่นอน
โดยภายในของ เอ็มจี จีเอส จะเน้นการออกแบบในโทนสีดำ จะมีความแตกต่างในส่วนของเส้นสายโครมเมี่ยมที่ตัดผ่าน ช่องกรอบแอร์ บริเวณพวงมาลัย และประตูเท่านั้น ในส่วนของแผงคอนโซลชุดหน้าถูกตกแต่งด้วยสีดำเงา
แม้จะเป็นรอยนิ้วมือง่ายตามสไตล์แต่ก็แทนที่ด้วยความหรูหรา หลายคนอาจจะมองว่าดูไม่มีอะไร เพราะการดีไซน์เน้นความเรียบหรู แต่หากใช้งานจริงๆ ฟังก์ชั่นการใช้งานมาครบครัน
ทั้งพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นทรง 3 ก้าน สไตล์สปอร์ต การจับกริ๊บมือต่างๆ ค่อนข้างเข้ามือแต่อาจจะไม่นุ่มนวลเท่าไหร่อาจจะเป็นที่วัสดุในการหุ้มพวงมาลัย พร้อมระบบครูซคอนโทรล
ถัดมาบริเวณกลางคอนโซลจะพบจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ต้องขอชมเชยเลยว่าเป็นจอทัชสกีนที่สมูทมาก ลื่น ไม่หน่วงแต่อย่างใด พร้อมระบบ inkaNet และชุดเครื่องเสียงลำโพง 8 ตัว รอบคัน พร้อมการเชื่อมทั้ง USB และ AUX ระบบแอร์อัตโนมัติพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ ซันรูฟสำหรับรุ่น ท็อป
ในส่วนเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่มีมาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีความกระชับ รับโครงสรีระได้ค่อนข้างดี เนื้อเบาะค่อนข้างแน่น ในส่วนของผู้โดยสารตอนหลังแบบ 60:40 มีความกว้างขวางองศาการเอนของเบาะทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง
เครื่องยนต์เทอร์โบ 218 แรงม้า สมรรถนะยอดเยี่ยม แต่ต้องเข้าใจการทำงานของระบบเกียร์
ในส่วนของขุมพลัง MG GS ขึ้นชื่อว่าเป็น เอสยูวี ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ รุ่นแรก หากเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในเซกเมนต์ โดยสมรรถนะต้องบอกว่าจี๊ดจ๊าดเลยทีเดียว
ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 218 แรงม้า ที่ 5,300 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดที่ 350 นิวตันเมตร ที่ 2,500-4,000 รอบต่อนาที จัดว่าหลังติดเบาะเหมือนกันหากกดเต็มที่
สำหรับระบบส่งกำลังยังคงใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด TST (Twin Clutch Spotronic Transmission) ซึ่งอาจจะไม่สมูทเท่ากับเกียร์อัตโนมัติแบบปรกติ หรือแบบ CVT เท่าใดนัก ในช่วงการเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งทำความเข้าใจแล้วก็ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานแต่อย่างใด
เอสยูวี พลังเทอร์โบรุ่นแรกในตลาด ที่น่าสนใจ ทั้งอัตราการเร่งที่จัดจ้านและความสวยงามแตกต่างบนท้องถนน
หากพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี ในตลาดประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ค่อนข้างมีอัตราการเติบโตสูง แต่ละแบรนด์ต่างพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ตลาดกันมากขึ้น
สำหรับ MG GS คันนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น และแตกต่างบนท้องถนนชนิดที่เรียกว่า ระหว่างที่ได้รถมาทดสอบ จอดตามสี่แยก หรือไปจอดตามที่จอดรถต่างๆ จะได้รับความสนใจค่อนข้างมาก
ทางด้านสมรรถนะก็โดดเด่นไม่แพ้รูปลักษณ์ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมเทอร์โบ ทำให้มีกำลังแรงม้าสูงถึง 218 แรงม้า อัตราเร่งทำได้ทันใจทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อปรับมาโหมดสปอร์ต
ระบบช่วงล่างหนึบแน่นไว้ใจได้ ความสะดวกสบายในห้องโดยสารทำออกมาได้ค่อนข้างดีทั้ง แถวตอนหน้า และแถวตอนหลัง โดยเฉพาะเบาะหลังค่อนข้างสบาย จะมีตินิดหน่อยในส่วนของ วัสดุบริเวณแผงคอนโซล ที่อาจจะดูเรียบไปนิดนึง
แต่ก็รวมๆ ก็ถือว่า น่าสนใจไม่น้อย ใครอยากพบประสบการณ์ “หลังติดเบาะ” จากรถเอสยูวี ขอบอกเลยว่ามาลองกับ MG GS จะได้สัมผัสกันแน่นอน
โดย MG GS ในประเทศไทยมีจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น คือรุ่น 2.0TD 2WD ราคา 1.21 ล้านบาท และรุ่น 2.0TX AWD ในราคา 1.31 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ในช่วงงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2016 ที่จะถึงนี้ ทาง เอ็มจี ได้มีเซอร์ไพส์สำหรับรุ่น MG3 และ MG GS โดยจะเป็นอะไร สามารถเข้ามาร่วมชมภายในบูทของ เอ็มจี ได้ที่บูธ A13 …แอบกระซิบให้ว่า น่าสนใจที่เดียว
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น