บีเอ็มดับเบิลยูออกงานแสดงรถแต่ง SEMA Show ในนครลาสเวกัสของสหรัฐอเมริกาด้วยการเปิดตัวชุดแต่งเอ็ม เพอร์ฟอร์แมนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู แอคเซสซอรี่
ชุดแต่งดังกล่าวถูกติดตั้งไว้ในรถหลายรุ่น ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม2 เซฟตี้คาร์ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม3 บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์5 และบีเอ็มดับเบิลยู 340ไอ ขณะที่แบรนด์ไอเพอร์ฟอร์แมนซ์ก็ได้รับการเปิดตัวที่งานนี้เช่นกันโดยติดตั้งไว้กับรถ 740อี เอ็กซ์ไดรฟ์
นอกจากชุดแต่งภายนอกแล้ว คนที่มองหาชุดเสริมสมรรถนะการควบคุมก็จะได้เลือกใช้ช่วงล่างเอ็ม เพอร์ฟอร์แมนซ์ ทั้งช็อกอัพ และสปริงใหม่ที่ติดตั้งในบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม3 โดยสามารถโหลดตัวรถให้เตี้ยลงได้ 5-20 มม. พร้อมกับปรับความสูงได้ด้วยสปริงเพลท ค่ายรถยักษ์เยอรมันระบุด้วยว่าช่วงล่างชุดนี้สามารถปรับแต่งให้รองรับการขับขี่บนถนนทั่วไปและสนามแข่ง
ใต้ฝากระโปรงมีชุดคิทพาวเวอร์แอนด์ซาวด์สำหรับ 340ไอ และ 440ไอ ที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร มีพละกำลังเพิ่มขึ้นอีก 35 แรงม้าเป็น 355 แรงม้า แรงบิดขยับขึ้นอีก 52 นิวตันเมตรเป็น 500 นิวตันเมตร แต่ขณะเดียวกัน อัตราบริโภคน้ำมันและการปล่อยมลพิษไอเสียยังเท่าเดิม
การปรับแต่งด้วยชุดคิทดังกล่าวจะเน้นที่การจัดการซอฟต์แวร์เพื่อให้มีการไหลเวียนอากาศที่ดีขึ้น ระบบวาล์วไอเสียที่ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิก และยกระดับการตอบสนองของเครื่องยนต์ ทำให้ซีรีส์ 3 และซีรีส์ 4 ดังกล่าวมีอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. เร็วขึ้นอีก 0.2 วินาที
ล้ออัลลอยของเอ็ม เพอร์ฟอร์แมนซ์ก็มีให้เลือกด้วยขนาด 19 นิ้วที่ล้อหน้าและ 20 นิ้วที่ล้อหลัง เน้นน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ หุ้มด้วยยางมิชลิน ไพล็อต สปอร์ต คัพ 2 ชุดล้อและยางดังกล่าวจะมีให้ใช้ในทั้งเอ็ม2 เอ็ม3 และเอ็ม4 ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
บีเอ็มดับเบิลยูยังนำเสนอปีกสปอยเลอร์หลังเอ็ม เพอร์ฟอร์แมนซ์ที่อวดโฉมครั้งแรกที่งาน SEMA ในรถเอ็ม3 เช่นเดิม โดยสปอยเลอร์ดังกล่าวทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งชิ้น เตรียมออกจำหน่ายจริงในช่วงกลางปีหน้า
งาน SEMA Show ยังเป็นเวทีแรกที่บีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัวฟังก์ชั่น Remote Engine Start ซึ่งจะติดตั้งไว้ในรถซีรีส์ 5 เอ็กซ์5 และเอ็กซ์6 ฟังก์ชั่นนี้เอื้อให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทรถได้จากระยะไกล เปิดระบบปรับอากาศหรือระบบทำความร้อนได้ก่อนขึ้นรถเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
ความคิดเห็น