โลตัสกำลังเดินหน้าสู่ปีงบประมาณแรกในรอบ 40 กว่าปีที่สามารถสร้างผลกำไรจากการปฏิบัติงาน หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวอีโวร่า 400 สู่ตลาดสหรัฐอเมริกา
นับตั้งแต่เปิดตัวอีโวร่า 400 สู่ตลาดแดนมะกันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่ารถสปอร์ตรุ่นใหม่ดังกล่าวมียอดจองต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมีนาคม 2017 เลยทีเดียว ขณะเดียวกัน โลตัสยังทำการลดพนักงานจาก 1,200 คนในเดือนพฤษภาคม 2014 เหลือ 800 คนในปัจจุบันด้วย
ถึงแม้จะลดพนักงานลง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจและการผลิต เนื่องจากปัจจุบัน ค่ายรถจากเมืองผู้ดีมีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 2,000 คันต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1,400 คันที่ผลิตในช่วงกลางปี 2014
ฌอง-มาร์ก เกลส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโลตัสกล่าวว่า “เรากำลังจะมีผลประกอบการที่ดี โดยเฉพาะกำไรจากการปฏิบัติงานครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 ทุกวันนี้เรามีพนักงานราว 800 คนผลิตรถกว่า 2,000 คันต่อปีซึ่งมีคุณภาพสูงขึ้นด้วย เราผลิตรถที่ยอดเยี่ยมขายในสหรัฐอเมริกาซึ่งดูเหมือนคนอเมริกันจะเข้าใจและให้ความสนใจในรถของเรามากขึ้น”
เกลส์เข้ารับตำแหน่งซีอีโอของโลตัสเมื่อสองปีที่แล้ว เขาประกาศชัดเจนว่าจะมุ่งเน้นการผลิตรถลิมิเต็ดเอดิชั่นแทนที่จะผลิตรถรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งรุ่นล่าสุดที่เราได้เห็นกันไปคือโลตัส เอ็กซ์ซีจ สปอร์ต 380 ตัวแรงนั่นเอง
หลังจากนี้เป็นไป ดูเหมือนโลตัสจะมีอนาคตที่สดใหม่มากขึ้น เนื่องจากจะเปิดตัวรถคอมแพกต์เอสยูวีที่คาดว่าจะทำยอดขายได้มากพอสมควร
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น