งานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ในสหรัฐอเมริกาเปิดฉากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและจะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมจนถึงวันที่ 22 มกราคมนี้ โดยมีรถที่น่าสนใจมาจัดแสดงมากมาย
ค่ายเจ้าภาพอย่างฟอร์ดหรือเจนเนอรัล มอเตอร์สไม่มีรถที่เรียกเสียงฮือฮามากนัก ต่างจากค่ายรถฝั่งยุโรปและญี่ปุ่นที่มีรถต้นแบบเรียกแสงแฟลชจากช่างภาพได้อย่างน่าสนใจ เราขอนำเสนอ 3 รถต้นแบบจากงานดีทรอยท์ประเดิมปี 2017 นี้มาฝากกัน
Volkswagen I.D. Buzz รถพลังงานไฟฟ้าพ่วงระบบขับขี่อัตโนมัติ
ไอ.ดี. บัซซ์ออกโชว์ตัวสู่สาธารณชนที่งานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ล้ำสมัย กรอบไฟหน้าแอลอีดี ไฟท้ายทรงเปรียวบาง ล้ออัลลอยลวดลายแปลกตาขนาด 22 นิ้วสีเทา Gray Metallic เสาหลังคาท้ายมีครีบดักอากาศที่ชวนให้นึกถึงรถคลาสสิกแต่ก็มีดีไซน์แบบทันสมัย ตัวถังรถใช้สีเงินเมทัลลิกสลับสีเหลืองมุก Cyber Yellow Pearl Effect
ภายในห้องโดยสารรองรับถึง 8 ที่นั่งในโหมดขับขี่อัตโนมัติหรือ I.D. Pilot โดยพวงมาลัยจะพับเก็บไว้ในแผงคอนโซลเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น บรรยากาศในค็อกพิทจงใจให้เป็นแบบสบายๆ เหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น พื้นปูด้วยไม้ มีแสงไฟแอลอีดีแอมเบี้ยนสร้างบรรยากาศ
ด้วยการย่นระยะโอเวอร์แฮงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โฟล์คสวาเกนสามารถขยายฐานล้อให้กว้างขึ้นทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางมากตามไปด้วย มีเทคโนโลยีครบครันทั้งเฮดอัพดิสเพลย์ กล้องตรวจจับ และแท็บเล็ตซึ่งสามารถถอดออกได้ติดตั้งอยู่ระหว่างเบาะที่นั่ง โดยโฟล์คสวาเกนยืนยันว่าทั้งหมดเป็นการแสดงแนวคิดที่จะถูกพัฒนาไว้ในรถโปรดักชั่นจริงในอนาคต
Audi Q8 Concept ร่างทรงครอสโอเวอร์แฟล็กชิพรุ่นใหม่
ออดี้ คิว8 คอนเซปต์ได้รับการวางตัวให้เป็นครอสโอเวอร์รุ่นแฟล็กชิพคันใหม่ที่มีตำแหน่งการตลาดเหนือกว่าคิว7 โดยดีไซน์เน้นความโมเดิร์นเต็มพิกัดตามสไตล์รถต้นแบบ เส้นสายหลังคาค่อนข้างลาดเอียงทำให้ตัวรถดูเล็ก แต่แท้แจริงแล้วขนาดตัวถังกว้างกว่าและสูงกว่าคิว7 เจนเนอเรชั่นที่สองซึ่งเปิดตัวเมื่อสองปีที่แล้ว นอกจากความทันสมัยแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกยังดูดุดัน กระจังหน้าขนาดใหญ่เบิ้มแบบโอเวอร์ไซส์เหมือนจะกลืนกินรถทุกคันที่ขวางหน้า กระจกแบบไร้กรอบ ด้านข้างบึกบึน เส้นสายลื่นไหล ล้ออัลลอยใช้ขนาด 23 นิ้ว เบรกเซรามิกมีขนาด 20 นิ้วซึ่งถือว่าใหญ่โตสะดุดสายตา
ภายในห้องโดยสารก็ล้ำอนาคตไม่แพ้ภายนอก ดีไซน์เต็มไปด้วยสันเหลี่ยมให้ภาพลักษณ์เฉียบคม พวงมาลัยแบบตัดตรง มาตรวัดเป็นหน้าจอดิจิตอลที่ไหลลื่นมาถึงแผงแดชบอร์ดที่มีหน้าจอทรงยาว ส่วนด้านล่างเป็นหน้าจออีกตัวสำหรับควบคุมระบบปรับอากาศ
ระบบขับเคลื่อนเป็นลูกผสมปลั๊กอินไฮบริด บล็อกวี6 ความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รีดพละกำลังสูงสุด 442 แรงม้า แรงบิด 516 ฟุตปอนด์ เพียงพอต่อการลากตัวถังใหญ่โตให้ออกตัวจากหยุดนิ่งถึง 100 กม.ต่อชม. ภายใน 5.4 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม.ต่อชม. ตัวรถสามารถโลดแล่นด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกล 60 กม. อัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 42.5 กม.ต่อลิตร ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ช่วงล่างเป็นแบบถุงลมซึ่งทำให้ตัวรถมีการขับขี่ที่นุ่มนวลสะดวกสบายตามแบบฉบับรถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่
Nissan Vmotion 2.0 Concept สวยเฉียบคมหน้าจรดท้าย
นิสสันประกาศว่า วีโมชั่น 2.0 คือทิศทางการออกแบบรถซีดานใหม่ล่าสุดที่เราจะได้เห็นจริงในอนาคตอันใกล้ รูปลักษณ์ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังแบบ V-Motion รูปตัววีซึ่งเคยใช้กับรถหลายรุ่นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมูราโน และแม็กซิมา แต่รถต้นแบบรุ่นนี้ถูกยกระดับให้มีความสะดุดตายิ่งขึ้นด้วยโครงสร้างแบบสามมิติและมีขนาดใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน
การออกแบบในภาพรวมเน้นความไหลลื่นและเส้นสายที่ชัดเจนแฝงความบึกบึน เสาหลังคาใช้สีเข้มกว่าตัวถัง กระจกบังลมหลังมีขนาดกว้างและกินเนื้อที่มาถึงด้านข้างตัวรถ ประตูหลังเปิดแบบตู้กับข้าวด้วยบานพับขนาดใหญ่ที่ทำให้มีพื้นที่กว้างขวาง ผู้โดยสารจึงเข้าออกตัวรถได้อย่างสะดวกสบาย ตัวถังใช้สีเงินผสมทองแดง
รถต้นแบบวีโมชั่น 2.0 มาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งโลโก้นิสสันด้านหน้าจะส่องสว่างขึ้นเมื่ออยู่ในโหมด “ProPilot” ภายในห้องโดยสารล้ำอนาคตไปไกล ติดตั้งเบาะที่นั่งแบบแยกส่วน 4 ที่นั่ง แผงแดชบอร์ดดีไซน์เรียบหรูแบบมินิมอลด้วยแนวคิด Gliding Wing ซึ่งผสมผสานแผงควบคุมและระบบอินโฟเทนเมนท์เข้าไว้ด้วยกันทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ใช้วัสดุไม้เพิ่มความนุ่มนวลสายตา พวงมาลัยเหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไวไฟ
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
LINE
ความคิดเห็น