สัมผัสแรก โตโยต้า โคโรล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) รุ่นใหม่ ที่มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ สวยงาม สปอร์ต มากยิ่งขึ้นรวมไปถึงงออพชั่นและระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม
กลับมาพบกันอีกครั้งสำหรับสัมผัสแรกหลังจากได้สัมผัส โตโยต้า โคโรล่า อัลติส รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่ต้องบอกเลยว่ารููปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมความสปอร์ตสวยงามและโดดเด่นมากยิ่งขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะด้านหน้ารถยนต์
แม้รวมๆ อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก แต่ถือว่าลงตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน โดยทริปทดสอบครั้งนี้จะเป็นการขับขี่ทดสอบบนเส้นทาง กรุงเทพ - หัวหิน ด้วยระยะทางพอประมาณ ที่พอให้ทราบถึงสมรรถนะและอะไรต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้าได้
ภายนอกปรับปรุงใหม่หรูหรา โดดเด่น ลงตัวมากยิ่งขึ้น (โดยเฉพาะด้านหน้ารถยนต์)
โตโยต้า โคโรล่า อัลติส รุ่นปรับปรุงใหม่รุ่นนี้ ต้องบอกเลยว่าทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะแน่นอนในตลาดคู่แข่งแต่ละรุ่นก็ถือว่าแข็งเลยทีเดียว โดยเฉพาะคู่แข่งตลอดกาลอย่าง ฮอนด้า ซีวิค ที่โฉมใหม่สวยงาม กวาดยอดขายในบ้านเราได้ไปอย่างถล่มทลาย หรือจะเป็นมาสด้า 3 ที่มีจุดแข็งคือตัวถังแบบ แฮทช์แบ็ค และ ซีดาน ให้เลือกรวมไปถึงสมรรถนะก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร
โคโรล่า อัลติส รุ่นปรับปรุงโฉมรุ่นนี้ มีการปรับปรุงใหม่รวมคัน ด้านหน้ามีการเปลี่ยนกระจังหน้าดีไซน์ใหม่เพื่สอดรับกับชุดโคมไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED Projector ปรับระดับ เปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมไฟ LED Daytime Running Light ที่น่าจะมาแบบนี้ตั้งนานแล้ว
มือจับเปิดประตูปรับปรุงใหม่แบบ Grip-Type พร้อมแถบโครเมี่ยม ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว แบบทูโทนลวดลายใหม่เช่นกัน และล้ออัลลอยทูโทน ขนาด 17 นิ้ว สำหรับรุ่น ESPORT รวมไปถึงชุดโคมไฟท้ายที่ออกแบบใหม่ปรับเปลี่ยนสีสันเป็นแบบ ทูโทน พร้อมไฟ LED แบบ Light Guiding
โดยรวมถือว่าเป็นการปรับปรุงที่มาถูกทางแล้ว แม้จะมาช้าไปหน่อยแต่ถือว่าสวยงาม หรูหรา และน่าจับจองเป็นเจ้าของมากยิ่งขึ้น สำหรับ อัลติส รุ่นนี้ โดยเฉพาะด้านหน้ารถยนต์ที่ออกแบบมาค่อนข้างลงตัว บวกกับเส้นไฟ Daylight ที่ทำให้ตัวรถดูดีขึ้น
ภายในปรับปรุงใหม่ สวยงามตามท้องเรื่องมากขึ้น ตามเสียงตอบรับจากลูกค้าที่ต้องการ
ในส่วนของภายใน อัลติส โฉมนี้ ต้องบอกเลยว่ารุ่นก่อนปรับโฉมมีเสียงตอบรับจากลูกค้า และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการดีไซน์ค่อนข้างหนาหูเลยทีเดียว เรื่องการดีไซน์ที่สู้คู่แข่งไม่ได้ ด้วยความที่โตโยต้า ต้องการเน้นการใช้งานง่าย และเน้นความเรียบหรู แต่ผลตอบรับกลับไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
รุ่นนี้มีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะช่องแอร์เจ้าปัญหาที่ถูกปรับปรุงมาเป็นแบบ วงกลมหมุนได้รอบทิศ ซึ่งทำให้โดยรวมดูสวยและวัยรุ่นขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง การปรับปรุงแผงควมคุมบริเวณด้านล่าง จอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ที่เปลี่ยนจากระบบหมุนเป็นระบบ ดัน ขึ้น-ลง แทน พร้อมตัวหนังสือดิสเพลย์สีฟ้า ซึ่งดูดีมากขึ้น
และภายในจากเดิมที่มาพร้อมสีแบบทูโทน (สีดำ-สีเบจ) ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าดูและแก่ หรือเหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่า รุ่นนี้ก็ถูกปรับปรุงเป็นสีดำล้วน ผนวกกับการดีไซน์ใหม่ทั้งหมดทั้ง ช่องแอร์ แผงควบคุมต่างๆ ซึ่งถือว่าลงตัวและน่าใช้งาน จับกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นอีกด้วย แต่สำหรับภายในแบบ (สีดำ-สีเบจ) ก็ยังทำตลาดอยู่เหมือนเคยไม่ได้ตัดออกไปแต่อย่างใด
นอกจากนี้ออพชั่นต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอย่างจัดเต็มเช่น ระบบถุงลมนิรภัยรอบคันที่เพิ่มเป็น 7 ลูก มีมาให้ตั้งแต่รุ่นล่างสุด รวมไปถึงการเพิ่มช่องต่อ USB ที่มีมาให้รวมถึง 3 จุด (บริเวณคอนโซลหน้า 1 และ ด้านหลัง 2 ช่อง) ก็มีมาให้ตั้งแต่รุ่นล่างเช่นกัน
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร เหมือนรุ่นก่อนหน้า
ทางด้านขุมพลัง โตโยต้า โคโรล่า อัลติส รุ่นปรับโฉมใหม่ ไม่มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ยังมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ขนาด 1.6 ลิตร 125 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 157 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที
และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85 ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT-i ที่มีการปรับเปลียนเกียร์เองได้ 7 สปีด ด้วยการเปลี่ยนที่เกียร์ หรือ Paddle Shift ในรุ่นที่มี
จุดเด่นอีกประการสำหรับรุ่นนี้คือ ระบบขับขี่แบบโหมดสปอร์ต ที่เพิ่มเติมปุ่ม เปิด-ปิด บริเวณด้านล่างฐานเกียร์เพิ่มเติมเข้ามาครั้งแรก เพื่อการขับขี่ที่มีการตอบสนองเร้าใจ ทุกการเร่งแซงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากได้ทดลองใช้ อัตราการทดเกียร์ อัตราการเร่งมีการติดเท้ามากยิ่งขึ้น แต่ไม่ถึงกับกดแล้วมาจนหลังติดเบาะแต่อย่างใด แต่การเร่งแซงไว้ใจได้ ขับขี่สนุกสนานมากขึ้น
การขับขี่โดยรวมค่อนข้างประทับใจ ช่วงล่างปรับปรุงใหม่ดีขึ้น โดยเฉพาะตัว ESPORT
จุดเด่นๆ อีกประการ รองลงมาจากรูปลักษณ์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ตมากยิ่งขึ้นแล้ว ก็น่าจะเป็นเรื่องของระบบช่วงล่างที่ทาง โตโยต้า เปิดเผยว่าอัลติสรุ่นปรัับโฉมรุ่นนี้มีการปรับปรุงระบบช่วงล่าง โช็คอัพ ระบบกันสั่นสะเทือน รวมไปถึงบุวัสดุเก็บเสียงเพิ่มเติมเข้ามา
ทางด้านช่วงล่างมีการปรับเซ็ตจูนค่าความหนืด และระยะรีบราวน์ของโช็คอัพให้มีความหนืดมากขึ้น จากรุ่นก่อน ซึ่งจากทดลองขับทั้งรุ่น 1.8 V และตัว ESPORT ทั้งสองรุ่นเปลี่ยนไปค่อนข้างมากทีเดียว รุ่นปรกติ ช่วงล่างมีความกระชับมากยิ่งขึ้น เข้าโค้งมั่นใจ จากการทดสอบขับขี่ในช่วงความเร็ว 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ตัวรถยังคงนิ่งไม่มีอาการโคลงเคลง ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงก็เช่นกัน
ในส่วนตัว ESPORT ก็ปรับปรุงให้มีความหนืด และกระชับมากขึ้น ค่าความแข็งของสปริงที่ปรับเปลี่ยน ทำให้ขับขี่สนุกสนานมากขึ้น ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีการตอบโจทย์ที่แตกต่างกัน ผลมาจากระบบการเซ็ตโช็คอัพ และขนาดของล้อและยาง ที่รุ่น ESPORT เลือกใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางซีรีส์ต่ำ ความกระด้างจะเห็นผลมากกว่ารุ่นปรกติเล็กน้อย แต่แลกมากับความสนุกสนานและมั่นใจ
อัตราการเร่งแซง รุ่นนี้มีการเพิ่มปุ่มขับขี่แบบ Sport เข้ามาทำให้กดใช้งานในช่วงที่ต้องการเร่งแซงหรืออยากขับขี่แบบสนุกสนานได้ ระบบความปลอดภัยจัดเต็มในราคาเท่าเดิม ด้วยการเพิ่มถุงลมนิรภัยจาก 2 ลูก เป็น 7 ลูกรอบคัน ทกรุ่นย่อย
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันหรือ HAC ป้องกันรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน ก็มีมาให้ (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่นเกียร์ธรรมดา หรือตัวล่างสุด) ช่อง USB เพิ่มเป็น 3 ช่องรอบคัน (ทุกรุ่นย่อย) ระบบปรับอากาศพร้อมกรองอากาศ นาโนอี (Nanoe) เทคโนโลยีสร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบ ช่วยถลอมผิวให้ชุ่มชื้น ขจัดกลิ่นภายในรถยนต์ (มีเฉพาะรุ่นท็อป 1.8 V) กับออพชั่นต่างๆ มากมายที่อัดแน่น แต่ราคาทำตลาดยังเท่าเดิมทุกรุ่นย่อย ถือว่าคุ้มค่าหากมองรุ่นนี้อยู่ ในช่วงนี้
ในส่วนรุ่น 1.8 V ปรกติ จะให้ความกระชับในระดับหนึ่งที่น่าจะถูกใจผู้ขับขี่ที่ไม่ต้องการขับด้วยความเร็วสูงมากมายนัก อาจจะเป็นผู้ใหญ่ หรือรถครอบครัว น่าจะตอบโจทย์ในกลุ่มนี้มากกว่า ในส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันจากการทดสอบที่มีการสลับขับขี่ทั้งความเร็วสูง และขับขี่ปรกติทั่วไป อัตราการบริโภคในรุ่น 1.8 V ที่ได้ทดสอบ จะอยู่ราวๆ 13-15 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าไม่ได้เลวร้าย
ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ ซี-เซกเมนต์ อีกรุ่นที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น แม้คู่แข่งแต่ละรุ่นจะค่อนข้างแข็งไม่เบา แต่อัลติส แม้จะไม่มีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเท่า แต่การขับขี่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าแบรนด์อื่นเท่าไรนัก รวมไปถึง การจับกลุ่มตลาดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย
และประเด็นสุดท้ายคือ ศูนย์บริการ ที่ถือเป็นจุดแข็งของโตโยต้า ไปที่ไหน เสียทีไหน ก็สามารถซ่อมได้ทุกทีจริงๆ สำหรับบ้านเรา เช่นเคย ก่อนจะซื้อรถยนต์รองขับให้ครบทุกรุ่นที่ต้องการเพื่อหาคันที่ชอบที่สุดสำหรับคุณเองนะครับผม
ทางด้านราคา โตโยต้า โคโรล่า อัลติส รุ่นปรับโฉมใหม่ อยู่ที่
1.8 V Navi ราคา 1,079,000 บาท / รุ่น ESPORT OPTION ราคา 979,000 บาท / รุ่น ESPORT ราคา 939,000 บาท / รุ่น 1.8 E ราคา 874,000 บาท / รุ่น 1.6 G ราคา 869,000 บาท / รุ่น 1.6 E CNG ราคา 969,000 บาท / รุ่น 1.6 J ราคา 799,000 บาท
ขอขอบคุณ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สำหรับทริปการทดสอบ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส รุ่นปรับโฉมใหม่ ในครั้งนี้ด้วยครับ
ทดสอบและเขียนรีวิวโดย Peerapat.h
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น