บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือ ดูคาติ ไทยแลนด์ เผยแผนการณ์รุกตลาดครั้งใหม่ในปีนี้ด้วยการปรับบริการหลังการขายและงานบริหารภายใน มั่นใจยังคงยึดส่วนแบ่งยอดขายในไทยที่ 9-10% ได้ในปีนี้
ม.ล.ญัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการคนใหม่ ของ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด เผยว่าในปีนี้ ดูคาติ ไทยแลนด์ ได้มีการปรับวิธีในการรุกตลาดใหม่รวมถึงมีการปรับวิธีการทำงานภายในองค์กรเพื่อสร้างพึงพอใจให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ดูคาติ ไทยแลนด์ ทำยอดขายในปี 2016 ได้มากถึง 1,700 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ราว 9% ซึ่งถือว่าเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากกว่าในระดับโลกที่จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ราว 5% เท่านั้น เชื่อว่าปีนี้จะยังคงรักษาตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 9-10% ได้เช่นเดิม
"ดูคาติ ไทยแลนด์ เคยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 20% แต่หลังจากที่ค่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้ออื่นๆ เริ่มเข้ามาทำการตลาดในไทย ทำให้ตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดของดูคาติมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นในปัจจุบัน"
ม.ล.ญัฐสิทธิ์ ดิศกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ขนาด 500 ซีซีขึ้นไปหรือที่เรียกว่าบิ๊กไบค์นั้นแทบจะไม่มีการเติบโตในปีที่ผ่านมาโดยมีตัวเลขยอดจดทะเบียนตลอดทั้งปีที่ 17,093 คัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้า 4%
ดูคาติ ไทยแลนด์ เชื่อว่าตลาดบิีกไบค์ในไทยยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก เนื่องจากมียอดขายรถบิ๊กไบค์เพียง 1.7 หมื่นคันจากยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งหมดกว่า 1.8 ล้านคัน เมื่อเทียบกับตลาดโลกที่มียอดขายรถบิ๊กไบค์ถึง 1 ใน 8 ของยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งหมด
สาาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตลาดรถบิ๊กไบค์เริ่มนิ่งมาจากความอิ่มตัวของผู้บริโภคซึ่งเริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้นและมีรถที่จบในตัวเอง และอีกหลุ่มหนึ่งก็หันไปจับรถขนาดเล็กอย่าง 300 ซีซี ที่เอื้อมถึงได้ง่ายและให้ความรู้สึกเหมือนการขับขี่รถบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่
ปีนี้ ดูคาติ ไทยอลนด์ ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่และพันธมิตรในการลดค่าอะไหล่สิ้นเปลืองต่างๆ ซึ่งทำให้ดูคาติลดราคาค่าอะไหล่ลงมาได้มากถึง 42.5% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดูคาติเน้นขายรถออกไปอยย่างเดียว ตอนนี้บริษัทแม่เองเริ่มเห็นความสำคัญของงานบริการหลังการขายและการให้ความรู้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
อัตราค่าบริการที่ลดลง 42.5% นั้นหากยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างการเช็คระยะ 1,000 ก.ม. ปกติจะอยู่ที่ราว 4,000 บาท แต่ในปัจจุบันจะเหลือเพียง 1,990 บาท หรือในระยะ 2.4 หมื่น ก.ม. ที่ราคาเฉลี่ยราว 2.3 หมื่นบาท เนื่องจากต้องมีการเช็คใหญ่รวมถึงการปรับวาล์วเดสโมก็จะเหลือเพียง 10,900 บาท
พร้อมกันนี้ดูคาติยังได้เตรียมจัดกิจกรรมให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความภาคภูมิใจในแบรนด์ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของและผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ใช่แค่แบรนด์พรีเมี่ยมที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าแต่ยังเติมเต็มความรู้สึคกในหัวใจด้วยกิจจกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างๆ
ดูคาติคาดการณ์ว่าในระยะ 2-3 ปี ตลาดบิ๊กไบค์ของไทยจะมีเสถียรภาพสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหารถที่ตอบโจทย์ตัวเองได้ดีขึ้น โดยในปีนี้ตลาดบิ๊กไบค์น่าจะอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ 1.7-1.8 หมื่นคัน
อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ คลิกที่นี่
ความคิดเห็น