ในที่สุด พากานี ฮูไวร่า โรดสเตอร์ก็ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการ ก่อนการโชว์ตัวจริงบนเวทีเจนีวา มอเตอร์โชว์ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้
ฮูไวร่า โรดสเตอร์โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เฉียบคมไม่ต่างจากรุ่นคูเป้ แต่มีสุนทรียภาพมากกว่าตามสไตล์รถเปิดประทุนรับสายลมแสงแดด มาพร้อมตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สีฟ้า และการตกแต่งภายนอกแบบ “ทรี-โทน” หรือสามเฉดสีสลับกันอย่างสวยงาม
พานานียืนยันว่า ฮูไวร่า โรดสเตอร์ไม่ได้เป็นเพียงฮูไวร่า คูเป้ที่ถูกตัดหลังคาออกเท่านั้น แต่ได้รับการปรับระบบวิศวกรรมใหม่หมด ทำให้มีน้ำหนักลดลง 80 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นคูเป้ น้ำหนักตัวรถจึงอยู่แค่เพียง 1,280 กก. เท่านั้น พร้อมกับเพิ่มความเหนียวแน่นแข็งแกร่งของตัวถังด้วยการใช้วัสดุคอมโพสิทเทคโนโลยีใหม่
ขุมพลังขับเคลื่อนเป็นของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รหัสเอ็ม158 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน บล็อกเบนซินวี12 ความจุ 6.0 ลิตร รีดพละกำลัง 764 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดมากกว่า 1,000 นิวตันเมตรที่ 2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 7 สปีดแบบเดียวกับรุ่นฮูไวร่า บีซี
ชุดช่วงล่างถูกอัพเกรดใหม่ด้วยการใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบาที่เรียกว่า “HiForg” ออกแบบมาเพื่อรุ่นโรดสเตอร์นี้โดยเฉพาะ ลดน้ำหนักลงได้ 25% เมื่อเทียบกับรุ่นคูเป้
ระบบเบรกเป็นของแบรนด์เบรมโบ วัสดุคาร์บอนเซรามิกมีขนาดดิสก์ 380 มม. และคาลิปเปอร์ 6 สูบที่คู่หน้า และ 380 มม. คาลิปเปอร์ 4 สูบที่คู่หลัง ล้อมีขนาด 20 นิ้วและ 21 นิ้วที่หน้าและหลังตามลำดับ หุ้มด้วยยางเกรดพิเศษของพิเรลลี่ สำหรับระบบควบคุมเสถียรภาพมีทั้งหมด 5 โหมดให้เลือกใช้คือ Wet, Comfort, Sport, Race และ ESC Off ซึ่งโหมดหลังสุดคือปิดการทำงาน
พากานีพัฒนาหลังคาของรุ่นโรดสเตอร์สองแบบ แบบแรกคือวัสดุคาร์บอนฮาร์ดท็อปน้ำหนักเบาที่มีกระจกตรงกลางทำให้มีลักษณะเหมือนรุ่นคูเป้ ส่วนอีกแบบเป็นผ้าใบและคาร์บอนที่ช่วยให้เก็บไว้ในตัวรถได้ง่ายขึ้น
พากานี ฮูไวร่า โรดสเตอร์จะมีจำนวนการผลิตเพียง 100 คันเท่านั้นและถูกจับจองหมดเกลี้ยงแล้ว แม้ค่าตัวจะสูงถึง 2.41 ล้านเหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีก็ตาม
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น