ซูซูกิประกาศชัดมุ่งหน้าอีโคคาร์ไปอีก 3 ปี ชี้แนวโน้มตลาดอีโคคาร์ขยายตัวเบียดส่วนแบ่งรถยนต์นั่ง ลั่นหากสำเร็จโครงการแรกพิจารณาต่อเฟสสองทันที พร้อมปรับแผนลุยส่งออกอีโคคาร์ทั้ง 3 รุ่นจากประเทศไทยสู่ตลาดโลก 4 หมื่นคันปีนี้
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของซูซูกิในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การเดินหน้าโครงการอีโคคาร์ทั้งเฟส 1 ที่ครบกำหนดปีที่ 5 ในปีนี้ ต่อเนื่องกับโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง ที่มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนไว้ก่อนหน้า
ทั้งนี้ ซูซูกิยังมองว่าตลาดรถยนต์อีโคคาร์เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวรถรุ่นแรกในปี 2553 ที่มีส่วนแบ่งตลาด 5.41% จนเพิ่มมาเป็น 38.99% ในปี 2559 ขณะที่รถอีโคคาร์รุ่นใหม่ ๆ ก็เปิดตัวเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
“เป้าหมายของเราคือการเดินหน้าผลิตให้ได้ 1 แสนคันต่อปีตามข้อกำหนด ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะทำได้ในปีใด จากนั้นก็จะพิจารณาเดินหน้าโครงการอีโคคาร์เฟสสองต่อไป ซึ่งขณะนี้ อีโคคาร์เฟสสองยังอยู่ที่ขั้นตอนของการเตรียมตัว ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนี้ได้”
นอกจากการเร่งจำหน่ายในประเทศแล้ว ซูซูกิยังเดินหน้าส่งออกรถยนต์อีโคคาร์จากประเทศไทยไปยังตลาดโลก โดยมีเป้าหมายการส่งออกเกือบ 4 หมื่นคันในปีนี้ แบ่งออกเป็นการส่งออกซูซูกิ เซเลริโอ 3 หมื่นคัน ซูซูกิ เซียส 9,000 คันและซูซูกิ สวิฟท์ 500 คัน
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2555-2559 ที่ผ่านมา ซูซูกิได้เริ่มส่งออกรถยนต์อีโคคาร์ไปยังตลาดโลกมากขึ้น โดยมีการส่งออกซูซูกิ เซเลริโอไปยังทวีปยุโรปและเอเชียรวมแล้ว 79,625 คัน ส่งออกซูซูกิ สวิฟท์ไปอินโดนีเซียและโอเชียเนียสะสม 18,035 คันและส่งออกซูซูกิ เซียสไปยังเอเชียและลาตินอเมริการวม 4,449 คัน
วัลลภกล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้ ว่าแม้ตลาดจะดูมีทิศทางที่เติบโตมากขึ้น โดยคาดว่าตลาดรวมน่าจะเติบโตราว 4% หรือมียอดจำหน่ายที่ 8 แสนคันในปีนี้ ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการครบกำหนดอายุการถือครองรถยนต์คันแรก ที่ส่งผลดีต่อตลาด
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อภาคครัวเรือนยังต้องอาศัยระยะเวลาในการฟื้นตัวจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินก็ยังมีท่าทีที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์อยู่ และอาจจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ได้เช่นกัน
“ที่มีการพูดคุยว่ารถยนต์คันแรก 1.1 ล้านคันจะกลับมาซื้อใหม่ 10% เอาจริง ๆ อาจจะผ่านสถาบันการเงินน้อยกว่านั้น ผมมองว่า 5% ก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจแล้ว อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผู้ประกอบการคงแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น ค่ายรถที่มียอดขายหดตัวในปีที่ผ่านมาคงยอมไม่ได้ และเราเองก็ต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้เช่นกัน”
ทั้งนี้ ซูซูกิมียอดจำหน่ายรถยนต์ 22,913 คันในปี 2559 ที่ผ่านมา เป็น 1 ใน 3 ค่ายรถยนต์ที่มีการเติบโตในปีที่ผ่านมา โดยมีการขยายตัว 7.65% โดยมีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นเป็น 6.73% จาก 6.03% ในปีก่อนหน้า ขณะที่คะแนนด้านการให้บริการด้านการขายสามารถทำได้เหนือค่าเฉลี่ยเป็นอันดับที่ 4 ของตลาด
สำหรับในปี 2560 ซูซูกิตั้งเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งตลาด 3% หรือคิดเป็นยอดขาย 2.4 หมื่นคัน โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่เข้าสู่ท้องตลาด 1-2 รุ่นในปีนี้ รวมถึงการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการเพิ่มเป็น 120 แห่งในปีนี้ จากที่มีอยู่ 104 แห่งในปัจจุบัน
ล่าสุด ซูซูกิได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-ทู รุ่นตกแต่งพิเศษที่ได้รับการปรับเปลี่ยนในส่วนของโคมไฟหน้า-หลัง ชุดกันชนหน้า ล้อแมกซ์ลายใหม่ พร้อมติดตั้งเสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม โดยวางราคาจำหน่าย 5.99 แสนบาท
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
ความคิดเห็น