ไทยรุ่ง เชื่อมั่นตลาดรถปีนี้ฟื้นตัว กลางปีจ่อทำผลิตภัณฑ์ใหม่ มินิบัส ร่วมประมูลขาย ทรานฟอร์เมอร์ ไปสิงคโปร์

ไทยรุ่ง ฯ มั่นใจตลาดรถพลิกฟื้น ตั้งเป้ารายได้พุ่ง 2.3 พันล้านบาท เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่มินิบัสสนองนโยบายรัฐ เล็งร่วมประมูลขายรถไปสิงคโปร์ พร้อมเพิ่มตัวแทนจำหน่าย เน้นย้ำเจาะกลุ่มลูกค้าตรงเป้า

สมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยดีเช่นเดียวกันกับบริษัท เนื่องจากตลาดในประเทศและการส่งออกได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะตลาดส่งออกชิ้นส่วนไปทางกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และอินโดนีเซียเกิดการชะลอตัว แต่ในปีนี้สัญญาณตลาดต่างประเทศเริ่มดีขึ้น

ขณะที่ตลาดในประเทศ ภาครัฐมีงานก่อสร้าง เร่งเปิดประมูล ส่งผลให้ตลาดรถที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะรถบรรทุก ซึ่งคาดว่าจะดีต่อเนื่อง 2-3 ปี โดยบริษัทจะได้รับอานิสสงส์ในส่วนของบริษัทที่ได้จอยเวนเจอร์กันไว้ คือ TREX THAIRUNG ซึ่งทำรถดั๊ม

รถตู้ขนสินค้ามีประตูปิดเปิดแบบปีกนก รถโม่ปูน รถเทลเลอร์ โดยโรงงานดังกล่าวจะมีการผลิตรถตู้ขนสินค้าฯ ไปฟิลิปปินส์และกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอนาคตจะมีการผลิตรถห้องเย็นด้วย โดยปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ประมาณ 1,900 ล้านบาท ลดลงจากปี 2558 ที่มีรายได้ 2,200 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ประมาณ 2,300 ล้านบาท

"ปีนี้ตลาดรถรวมไม่ได้หวือหวา แต่มีโอกาสที่จะดีขึ้นแน่ๆ หรือโตประมาณ 5% โดยยอดขายรวมน่าจะอยู่ที่ 2 ล้านคัน ขณะที่กำลังการผลิตมีอยู่ 3 ล้านคัน และเชื่อว่าปีนี้ยังไม่มีการขยายการลงทุน โดยในแง่ของชิ้นส่วนก็จะขยับขึ้น โดยเฉพาะแม่พิมพ์ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ไม่ดีเลย บริษัทหลายแห่งเลื่อนการออกรถรุ่นใหม่ออกไปหลายรุ่น ทั้งรถยนต์ รถบรรทุก ขณะที่ปีนี้เครื่องจักรอุตสาหกรรมก็จะดีขึ้นสอดคล้องกัน

สมพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีออเดอร์ที่มาเลเซียอีก 150 คัน ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีออเดอร์เพิ่มขึ้นอีก ขณะเดียวกันประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทจะเข้าร่วมประมูลขายรถ ทรานฟอร์เมอร์ ที่สิงคโปร์ จำนวน 1,000 คัน โดยหากได้รับเลือก บริษัทจะผลิตและทยอยส่ง โดยใช้เวลาส่งประมาณ 1 ปีครึ่ง

ส่วนการขยายและส่งออกรถไปยังกลุ่มอาเซียน เช่น เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา นั้นบริษัทอยู่ระหว่างหาตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายรถไปขายในกลุ่มประเทดังกล่าว คาดว่าภายในปีนี้น่าจะมีการส่งออกรถไปขายได้

สำหรับยอดขายทรานฟอร์เมอร์ปีนี้ น่าจะขายได้ 300 คัน แบ่งเปดส่วนขายในประเทศ 75% ส่งออก 25 % ส่วนปีที่แล้วตั้งเป้าไว้ 200 คันขายได้ 180 คัน โดยที่ผ่านมา คนทั่วไปจะมองว่า รถมีขนาดใหญ่ เป็นรถทหาร ดังนั้น จะพยายามปรับลดลง

ให้เป็นรถขนาดเล็กกะทัดรัด ซึ่งปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย 6 แห่งและต่อไปจะขยายอีกไม่เกิน 10 แห่ง และจะเน้นให้ตัวแทนจำหน่ายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถอย่างแท้จริง เช่น ผู้รับเหมา ผู้ประกอบการโรงสี เป็นต้น

"ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือรถมินิบัส ทดแทนรถตู้ ตามที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้รถตู้ที่วิ่งให้บริการรัศมีไม่เกิน 300 กม. เปลี่ยนมาเป็นรถมินิบัสแทน ซึ่งจะช่วยให้ปลอดภัยขึ้น"

สำหรับโรงผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ขณะนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยโดยมีปริมาณรถ 3,000-4,000 คัน และต้องการลดความเสี่ยงการลงทุน ก็จะหันมาว่าจ้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบฯ โดยที่ผ่านมา

บริษัทได้ยื่นหนังสือไปยังกรมศุลกากร เพื่อขอให้พื้นที่โรงงานส่วนหนึ่งได้รับสิทธิ์เป็นเขตปลอดอากร (Free Zone) รองรับธุรกิจรับจ้างประกอบชิ้นส่วน ในอนาคต ซึ่งหากได้รับสิทธิ์ สามารถทำให้บริษัทรับจ้างงานได้มากขึ้น เช่นเดียวกับรถมินิบัสที่บริษัทวางแผนว่าจะผลิตในโรงงานที่อยู่ในฟรีโซน คาดว่าไตรมาสที่ 2 น่าจะได้ประกอบชิ้นส่วนในพื้นที่โรงงานฟรีโซน

"ธุรกิจหลักมาจากการผลิตชิ้นส่วนและแม่พิมพ์ เป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 60% รับจ้างประกอบชิ้นส่วน 25% ขายรถประมาณ 8% รายได้จากบริษัทร่วมทุน และอื่นๆ 7% โดยการลงทุนปีนี้ น่าจะปรับปรุงและทำโปรดักส์ใหม่ มีการติดตั้งโซลารูฟบนหลังคา โดยใช้เงินหมุนเวียนประมาณ 150-200 ล้านบาท โดยส่วนนั้นจะเป็นงบลงทุนประกอบโครงสร้างและชิ้นส่วนของเป็นมินิบัสประมาณ 50 ล้านบาท "

ในส่วนของรถยนต์ตรวจการณ์ TR TRANSFORMER II ได้ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย เมื่อปลายปี 2559 โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะทำให้หน่วยงานราชการสามารถซื้อรถได้ถึง 30 % ของงบประมาณหน่วยงานนั้นๆ หากมีความต้องการ ซึ่งในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา ทางกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ได้ส่งรถที่ซื้อบริษัทจากไปช่วยน้ำท่วม โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนำคณะลงไปช่วย ทำให้ภาพพจน์ของบริษัทดีขึ้น ฉะนั้น ทิศทาง TR TRANSFORMER จะปรับตัวดีขึ้น โดยต่อไปจะเน้นรถอเนกประสงค์เพิ่มที่นั่งมากขึ้น และล่าสุดได้ออเดอร์ล๊อตเล็กๆ เป็นรถขนสุนัข (K9) รถขนอุปกรณ์ EOD

ในส่วนทางด้านโรงงานในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนการทำงาน โดยย้ายงานชิ้นส่วน และงานพ่นสีชิ้นส่วน สู่โรงงานเหมราช จ.ระยอง และเดินหน้างานประกอบรถยนต์เต็มกำลังในโรงงานไทยรุ่งฯ ปัจจุบันแทน พร้อมกันนี้ยังมีแผนการดำเนินงานจัดตั้งโรงงานในเขตฟรีโซน เพื่อประโยชน์ทางด้านภาษีของชิ้นส่วนรถยนต์จากต่างประเทศอีกด้วย

ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่

ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่