เมอร์เซเดส-เบนซ์เติมเต็มไลน์อี-คลาสด้วยการเผยโฉมรุ่นเปิดประทุนคาบริโอเลต์ ออกมาสมทบกับซีดาน เอสเตท คูเป้ และอี-เทอร์เรน
อี-คลาส คาบริโอเลต์จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่คิดว่าซี-คลาสเล็กไป และเอส-คลาสมีขนาดใหญ่เกินไป โดยมีสัดส่วนทรวดทรงและดีไซน์ที่คล้ายกับสองรุ่นดังกล่าว ถ่ายทอดสไตล์ตัวถังมาจากเวอร์ชั่นคูเป้ต่างกันที่หลังคาเป็นผ้าใบแบบพับเก็บได้ ซึ่งทำให้ตัวรถดูมีสไตล์และสุนทรียภาพ เหมาะสำหรับการขับชิลๆ กินลมชมวิวริมชายทะเลหรือในเมืองใหญ่เป็นอย่างมาก
หลังคาผ้าใบมีทั้งสีน้ำตาลเข้ม น้ำเงินเข้ม แดงเข้ม หรือดำ สามารถเปิดและปิดได้ในเวลาไม่ถึง 20 วินาทีที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม.ต่อชม. โดยเก็บไว้ใกล้กับฝากระโปรงหลังที่มีเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ 385 ลิตร แต่เมื่อเปิดประทุนจะมีเนื้อที่เหลือ 310 ลิตร
มิติตัวถังมีขนาดใหญ่ ยาว และสูงกว่าอี-คลาส คาบริโอเลต์รุ่นก่อนหน้านี้ ส่วนพื้นที่ช่วงขาของผู้โดยสารตอนหลังก็เพิ่มขึ้นอีก 102 มม. เพื่อความสะดวกสบาย
หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ค่ายรถยักษ์เยอรมันไม่ลืมติดตั้งมาให้คือระบบ AIRCAP ป้องกันลมในห้องโดยสารและ AIRSCARF ช่วยพ่นลมอุ่นๆ บริเวณลำคอซึ่งจะให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารขณะเปิดหลังคา
นับเป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์จะนำเสนอระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4แมติค เป็นอ็อปชั่นเสริมในรถคาบริโอเลต์ ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ในตลาดอเมริกาจะได้ใช้เครื่องยนต์วี6 เทอร์โบคู่ พละกำลัง 329 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 9G-TRONIC
ส่วนในยุโรปจะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รวมถึงรุ่นเริ่มต้นอย่างดีเซล อี220ดี และเบนซิน อี300 พละกำลัง 241 แรงม้าและ 191 แรงม้าตามลำดับ ทั้งอเมริกาและยุโรปจะได้ใช้รุ่นสมรรถนะสูงอย่างอี50 เอเอ็มจี รีดพลังเกินกว่า 400 แรงม้าด้วย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส คาบริโอเลต์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ในสัปดาห์หน้า ก่อนออกจำหน่ายจริงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น