ถึงแม้เจนเนอรัล มอเตอร์สจะเพิ่งบรรลุข้อตกลงการขายกิจการในยุโรปอย่างโอเปิลและวอกซ์ฮอลล์ให้พีเอสเอ กรุ๊ปจากฝรั่งเศส แต่ดูเหมือนค่ายรถยักษ์อเมริกันจะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้และจะเดินหน้าลดขนาดองค์กรต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรถูกวางแผนและดำเนินการอย่างต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว โดยนอกจากการถอนธุรกิจออกจากยุโรป จีเอ็มยังปรับลดขนาดธุรกิจในหลายประเทศ ทั้งในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย รัสเซีย รวมถึงประเทศไทยด้วย พร้อมกับลดจำนวนแพลทฟอร์มที่ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์
ล่าสุดมีการเปิดเผยพรีเซนเทชั่นของจีเอ็มระหว่างการประชุมนักลงทุนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุถึงเหตุผลว่าทำไมจีเอ็มถึงขายโอเปิล และแผนการในอนาคตที่จะปรับโครงสร้างองค์กรเพิ่มเติม
สไลด์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจีเอ็มกำลังมองหาลู่ทางการลดการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์ในตลาดอเมริกาเหนือ และลดการปฏิบัติงานในบางตลาด “จีเอ็มไอ” ซึ่งครอบคลุมแอฟริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง และตลาดแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ขณะเดียวกัน จีเอ็มเล็งเห็นถึงศักยภาพการเพิ่มผลกำไรในตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีในอเมริกาเหนือ รวมถึงการทำตลาดแบรนด์แคดิลแลคในระดับโลก จีเอ็มยังระบุถึงธุรกิจใหม่อย่าง AV/TaaS หรือรถขับขี่อัตโนมัติและการให้บริการการขนส่ง ซึ่งจะช่วยสร้างผลกำไรอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ดูเหมือนว่าจีเอ็มจะมุ่งหน้าสู่ทิศทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญด้านผลกำไรมากกว่าจำนวนยอดขายรถยนต์ โดยการขายโอเปิลอาจทำให้จีเอ็มหล่นลงมาอยู่อันดับที่ 4 ของบริษัทรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในโลก ต่อจากโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป โตโยต้า และเรโนลต์-นิสสัน
แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มกล่าวว่า “ปรัชญาในภาพรวมของเราคือในทุกประเทศ ในทุกเซกเมนท์ และในทุกตลาดจะต้องมีต้นทุนของเงินทุน และต้องส่งเสริมการเติบโตในภาพรวม”
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น