งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ที่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของโลกอย่างเจนีวา มอเตอร์โชว์กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นจนถึงวันที่ 19 มีนาคมนี้ เราขอนำรถทั้งต้นแบบและโปรดักชั่นที่เรียกเสียงฮือฮาจากงานที่สวิสเซอร์แลนด์มาฝากกัน
ทาโม ซับแบรนด์ภายใต้เครือทาทา มอเตอร์สเผยโฉม “เรซโม” (Racemo) รถสปอร์ตคูเป้ 2 ที่นั่งที่ผสมสานการออกแบบแนวอิตาเลียนเข้ากับเอกลักษณ์แบบอินเดียด้วยแนวคิด “phygital” หรือการผนวกรวมคำว่า physical เข้ากับ digital ดีไซน์ภายนอกและภายในสวยงามหวือหวา หัวใจขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบวางกลางลำบล็อก 3 สูบ 1.2 ลิตร พละกำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ในเวลาไม่ถึง 6 วินาที
ไฮไลท์ของเอ็กซ์วี เจนเนอเรชั่นใหม่อยู่ที่แพลทฟอร์มโกลเบิลใหม่ของซูบารุที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวถังและแชสซีส์ได้มากกว่าเดิม 70-100% ขณะที่ช่วงล่างและอัตราทดเกียร์ก็ถูกปรับจูนใหม่หมดเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ เครื่องยนต์ยังคงใช้บล็อกเดิม 4 สูบนอน ความจุ 2.0 ลิตร ไดเรคอินเจคชั่น แต่ซูบารุเปลี่ยนชิ้นส่วนไส้ในถึงกว่า 80% ทำให้พละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 156 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร Symmetrical All-Wheel Drive ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Lineatronic ที่มาพร้อมโหมดแมนวล
7. โตโยต้า ไอ-ทริล คอนเซปต์ รถต้นแบบโชว์การเดินทางแห่งอนาคต
โตโยต้า ไอ-ทริล เป็นรถต้นแบบพลังไฟฟ้ามาพร้อมรูปทรงตัวถังค่อนข้างแปลกใหม่เนื่องจากมีการจัดวางล้อหน้าที่กว้าง ล้อหลังที่แคบกว่า ส่วนภายในห้องโดยสารรองรับเบาะแบบ 1+2 ที่นั่ง ไอ-ทริลสามารถเอียงเข้าโค้ง (สูงสุด 10 องศา) ได้เหมือนมอเตอร์ไซค์ ช่วงล่างนวัตกรรมใหม่ทำให้ตัวรถไม่ล้มและล้อทั้งสี่ยึดเกาะอยู่กับพื้นตลอดเวลา น้ำหนักตัวถังรถอยู่ที่เพียง 600 กก. เท่านั้น ส่วนความยาวตัวถังแค่ 3 เมตรจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ที่ผู้คนคับคั่งและถนนคับแคบอย่างกรุงโตเกียวที่สุด
ซูเปอร์คาร์ตระกูลซูเปอร์ซีรีส์รุ่นใหม่ของแมคลาเรน พัฒนาบนโครงสร้างคาร์บอนโมโนค็อกที่เน้นน้ำหนักเบา ตัวถังถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อความลู่ลมกว่ารุ่น 650เอส ไฮไลท์อยู่ที่ขุมพลังวี8 ความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร พละกำลัง 710 แรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิด 537 ฟุตปอนด์ที่5,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 7 สปีด ไส้ในอย่างลูกสูบและก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง เทอร์โบ และชิ้นส่วนอื่นๆ มีน้ำหนักเบาลงและแข็งแรงยิ่งขึ้น
รถเอสยูซีขนาดคอมแพกต์รุ่นนี้เป็นรถที่มีความปลอดภัยที่สุดเท่าที่วอลโว่เคยผลิตมา เนื่องจากอัดแน่นระบบเซฟตี้สไตล์วอลโว่ โดยเฉพาะระบบ Oncoming Lane Mitigation ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี Steer Assist ในการควบคุมพวงมาลัยโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้เกิดการชนด้านหน้า ขณะเดียวกัน ระบบ Blind Spot Indication System ยังช่วยตรวจจับสายตาที่จะใช้เทคโนโลยี Steer Assist อีกเช่นกันในการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุระหว่างเปลี่ยนเลน แถมงมาพร้อมระบบ Pilot Assist เป็นอ็อปชั่นเสริม ซึ่งก็คือระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ตัวรถจะสามารถเลี้ยว เร่ง และเบรกบนถนนที่มีเส้นจราจรชัดเจนที่ความเร็วไม่เกิน 130 กม.ต่อชม.
“เดนโดรเบียม” เป็นรถไฮเปอร์คาร์รุ่นแรกของสิงคโปร์ พัฒนาโดยบริษัทแวนด้า อิเลกทริก หน้าตาเปี่ยมด้วยความโดดเด่นและดุดัน แถมยังใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานทางเลือกอย่างระบบไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนจากวิลเลี่ยม แอดวานซ์ เอนจิเนียริ่ง โดยจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวติดตั้งที่เพลาหน้าและเพลาหลัง นั่นหมายถึงการใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ทั้งสองตัวจะถ่ายกำลังสู่ระบบเกียร์แบบซิงเกิลสปีดที่ล้อหน้า และแบบมัลติสปีดที่ล้อหลัง อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ทำได้ในชั่วพริบตา 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุดทะยานไปได้ถึง 320 กม.ต่อชม.
3. เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที คอนเซปต์
นี่คือรถที่มีรูปลักษณ์สวยงามที่สุดรุ่นหนึ่งของค่ายตราดาวสามแฉกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการผสมผสานฟังก์ชั่นการใช้งานของรถซีดานเข้ากับสไตล์ที่ปราดเปรียวของรถสปอร์ตคูเป้ หัวใจขับเคลื่อนของจีที คอนเซปต์เป็นบล็อกวี8 ความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีพละกำลังมหาศาลถึง 805 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาที
ซีวิค ไทพ์ อาร์ พัฒนาบนพื้นฐานของซีวิค แฮทช์แบ็ก เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปหมาดๆ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 306 แรงม้า แรงบิด 295 ฟุตปอนด์ ตัวถังของซีวิค ไทพ์ อาร์ใหม่ได้รับการปรับปรุงให้มีความแข็งแกร่งเหนียวแน่นมากขึ้น 38% ช่วงล่างได้รับการปรับจูนเพื่อเพิ่มแฮนดลิ่งแบบสปอร์ต รูปลักษณ์ภายนอกยังคง “จัดเต็ม” เหมือนที่ผ่านมา เพียบพร้อมด้วยบอดี้คิทและแอโรพาร์ทเพื่อเพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์
ไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างแอสตัน มาร์ติน และเรดบูลล์ เรซซิ่ง ถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนจากสนามแข่งเอฟวัน บล็อกวี12 รุ่นใหม่เอี่ยม มีความจุอยู่ที่ 6.5 ลิตร รีดพละกำลังถึง 820 แรงม้า พร้อมการพัฒนาโครงสร้างตัวถังแบบโมโนเซลล์ที่เบาหวิว ทำให้สัดส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักจะอยู่ที่ 1 ต่อ 1 เมื่อวาลคีรีออกอาละวาดบนถนนจริงในปี 2018 คาดว่าจะทำให้หลายค่ายรถคู่แข่งหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
LINE
ความคิดเห็น