ในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ 2017 หนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงและเรียกเสียงเฮฮาอย่างมากมายจากผู้เข้าชมในงานก็คือต้นแบบคันล่าสุดของเจ้าบ้าน ที่มีชื่อเรียกว่า เอ็มจี อี-โมชั่น คอนเซปต์ (MG E-Motion Concept)
รถยนต์ต้นแบบที่ถือเป็นผลผลิตจากฐานการค้นคว้าและพัฒนาของเอสเอไอซีในเซี่ยงไฮ้ ร่วมกับแนวทางในการออกแบบรถยนต์ที่คงเอกลักษณ์โดดเด่นของเอ็มจีในยุคอดีตเอาไว้อย่างครบถ้วน
ฉาว จิงเฟิ่ง ผู้อำนวยการ เอสเอไอซี ดีไซน์ ประเทศจีน บอกในงานแสดงรถต้นแบบคันนี้ก่อนจัดแสดงจริงในงานว่า เป็นความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำการพัฒนารถยนต์สปอร์ตคูเป้ให้สะท้อนถึงภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งของเอ็มจีในอดีต
"เราเริ่มจากการส่งคนของเราไปเรียนรู้การออกแบบที่สหราชอาณาจักร มีการจัดทีมงานรุ่นใหม่ที่จะเข้าใจถึงความเป็นเอ็มจีในแบบเดิม ก่อนที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้กลับมาเพื่อใช้ออกแบบรถยนต์ที่สำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้"
ผ่านมากว่าครึ่งทศวรรษ ผลงานการออกแบบรถยนต์ของเอ็มจีเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และก้าวต่อไปที่พวกเขาเลือกทำก็คือการออกแบบรถยนต์สปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่ ที่จะสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์เอ็มจีจากนี้ไปอีกหลายปีข้างหน้า
เอ็มจี อี-โมชั่น คอนเซปต์ คือรถยนต์ดังกล่าวที่พร้อมเปิดตัวสู่สายตาประชาชนในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ปีนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเกิดใหม่ของตำนานรถยนต์สปอร์ตคูเป้ที่เอ็มจีถือเป็นผู้ริเริ่มและเคยเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคมานานแสนนาน
ต้นกำเนิดของรถมาจากรถยนต์ในตำนานอย่างเอ็มจีเอ สปอร์ตเปิดประทุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในปี 1955 และต้นแบบคันนี้ก็เลือกใช้สัดส่วนของรถที่ออกแบบมาในสัดส่วนที่เท่าเทียมกันทั้งหมดจากรถยนต์ในตำนานคันดังกล่าว
"ในการออกแบบรถคันนี้ เราผสานแนวความคิดในการออกแบบ 3 ประการเข้าด้วยกัน ประกอบไปด้วย Exclusive, Emotion และ Agile เพื่อให้ได้เอกลักษณ์ในการออกแบบที่เราเรียกว่า Emotion Dynamism"
แม้ว่าการถอดเอกลักษณ์ของรถจากรถคลาสสิคมาเป็นรถยนต์สปอร์ตยุคใหม่จะทำได้ยาก แต่ทีมออกแบบของเอ็มจีก็เลือกสิ่งที่เหมาะสมให้กับรถยนต์ยุคใหม่ ด้วยกรอบไฟหน้าที่ซ่อนตำแหน่งไฟสูงเอาไว้อย่างลงตัว
กระจังหน้ามาพร้อมแนวทางในการเล่นกับการออกแบบหลอดไฟแอลอีดีเพื่อให้ได้กระจังหน้าแบบสามมิติ โคมไฟหน้านั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเงาสะท้อนของลอนดอน อาย ที่ตกกระทบลงบนพื้นผิวแม่น้ำเทมส์กลางกรุงลอนดอน
ทีมงานออกแบบให้รถคันนี้มีบ่าและกรอบฝากระโปรงที่มีลักษณะแข็งแกร่ง ผสานกับลายเส้นที่ทอดยาวจากกระจังหน้าไปจรดกรอบไฟท้ายที่กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของฝากระโปรงหลัง เพื่อให้เกิดความพริ้วไหวของสายตาในการมองมาที่รถคันนี้
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ต้นแบบในยุคปัจจุบันต้องเน้นการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทีมออกแบบมองไปถึงเรื่องของการเลือกใช้ประตูแบบปีกผีเสื้อเพื่อให้ประหยัดพื้นที่การใช้สอยมากที่สุด ซึ่งก็ได้กลับมาซึ่งความสปอร์ตที่เพิ่มขึ้นของรถคันนี้
ห้องโดยสารภายในแม้จะเป็นรถยนต์สปอร์ต แต่แนวคิดห้องโดยสารภายในที่นำมาใช้ก็คือ The Rider Spirit โดยมีการเลือกใช้วัสดุที่มีความหรูหราและตกแต่งมาอย่างวิจิตร เพื่อสะท้อนความหรูหราแบบเต็มพิกัดให้สมกับเจ้าของที่จะครอบครองรถคันนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค็อกพิทและแผงคอนโซลด้านหน้าทั้งหมดจะถูกออกแบบโดยอิงกับองค์ประกอบของรถจักรยานยนต์หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการนำหมวกกันน็อคมาเป็นแรงบันดาลใจ หรือจอแสดงผลที่ดูเฉียบหรูเกินกว่าใคร
เอ็มจีไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดของเครื่องยนต์ที่นำมาติดตั้ง แต่บอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าทั้งคันที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังจะวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาต่ำกว่า 4 วินาทีและมีระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
ยังไม่มีการยืนยันว่ารถยนต์ต้นแบบคันนี้จะมีการผลิตจริงหรือไม่ในอนาคต แต่ดูจากแนวโน้มแล้ว เชื่อว่าเป็นรถยนต์อีก 1 รุ่นที่น่าจะถูกบรรจุเข้าไปในพอร์ตสินค้าของเอ็มจีได้ในอนาคตอันใกล้นี้
เพียงแต่ต้องมาคอยดูว่าเมื่อถึงรุ่นผลิตออกมาจำหน่ายจริง จะเหลืออะไรไว้ให้เจ้าของรถใช้กันบ้าง ก็เท่านั้น...
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
ความคิดเห็น