วอลโว่เป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่เดินหน้าพัฒนาระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าอย่างเข้มข้นดุดัน โดยเฉพาะระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ลูกค้ายอมรับทั้งความประหยัดและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
ฮาคาน ซามูเอลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวอลโว่ คาร์ส ยืนยันว่าอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์คือพลังงานไฟฟ้า พร้อมกับชี้ว่าเครื่องยนต์ดีเซลเพียงลำพังไม่มีทางที่จะแข่งขันในตลาดได้อีกต่อไปเมื่อพิจารณาจากกฎระเบียบด้านความประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะการจำกัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์และไนตรัสออกไซด์
นั่นหมายความว่าทางเลือกเดียวที่จะแข่งขันในตลาดได้ก็คือเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลที่ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า อย่างไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด
“หากมองตลาดให้ลึกลงไปแล้ว เครื่องยนต์ดีเซลอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ แต่ต้องเป็นพลังงานไฟฟ้า เครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งเบนซินและดีเซลจะต้องผสมผสานกับพลังไฟฟ้าให้เป็นระบบไฮบริดมากขึ้นในอนาคตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน รถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างเดียวก็มีความสำคัญมากขึ้นด้วย” ซามูเอลสันกล่าว
มีรายงานว่ารถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบของวอลโว่จะเปิดตัวทำตลาดภายในปี 2019 ก่อนที่ในปี 2025 วอลโว่วางแผนไว้ว่าจะต้องมีรถที่ใช้พลังไฟฟ้ามากกว่า 1 ล้านคันบนท้องถนน
“เรากำลังพัฒนารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่น ทั้งบนแพลทฟอร์มขนาดเล็กและขนาดใหญ่ แต่เราไม่สามารถบอกได้ในเวลานี้ว่าจะเปิดตัวรุ่นใดก่อน” ซีอีโอวอลโว่เผย พร้อมกับแสดงความชื่นชมสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อรถพลังงานไฟฟ้าที่สมรรถนะอย่างเดียวก็ได้ โดยไม่ต้องคิดถึงประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมด้วยซ้ำไป
“ระบบพลังงานไฟฟ้าจะให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยม มีอัตราเร่งที่ดีมาก เงียบสงบ ไม่มีเสียงเกียร์รบกวนหรือมีเพียงนิดเดียว เมื่อเราพัฒนาให้ต้นทุนต่ำลงก็จะเป็นเรื่องที่ดี ผู้บริโภคจะไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าเพราะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่จะซื้อเพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย”
วอลโว่คาดการณ์ด้วยว่า ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่พลังงานไฟฟ้าจะลดต่ำลงจนเทียบเท่าได้กับการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่วอลโว่มีวิสัยทัศน์แตกต่างจากค่ายรถรายอื่นคือประเด็นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จไฟ โดยวอลโว่ยืนยันว่าจะไม่ผลิตสถานีชาร์จไฟด้วยตนเอง แต่จะมอบหน้าที่ให้แก่บริษัทบุคคลทีสามสำหรับการก่อสร้างและการบริหารแทน
“เราทุ่มเทลงทุนในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจะเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นๆ ได้เข้ามาทำธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน ถ้าพวกเขาเล็งเห็นถึงโอกาสของรถพลังงานไฟฟ้า พวกเขาก็จะเข้ามาลงทุน ผมไม่เห็นว่าบริษัทรถยนต์อย่างเราจำเป็นต้องลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน” ซีอีโอวอลโว่กล่าว
“แต่กระนั้น เราก็ไม่ควรปิดโอกาสเสียทีเดียว เราแค่ต้องการแสดงความชัดเจนในการพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า แต่ถ้าคุณจะพัฒนารถไฮโดรเจน คุณก็จะต้องมีสถานีเติมไฮโดรเจนอีกซึ่งผมคิดว่ามีข้อจำกัดในด้านการลงทุน เราอาจจะคิดผิดในอนาคต แต่เวลานี้เราต้องการแสดงความชัดเจนเรื่องนี้”
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น