บีเอ็มดับเบิลยูยันลูกค้าคือคนเลือกเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยันเดินหน้าทำตลาดเครื่องยนต์คู่ขนาดทั้งดีเซล-ปลั๊กอิน ไฮบริด รับเทรนด์ตลาดโลกมุ่งหน้าไฟฟ้า แต่แรงผลักดันในไทยไม่มากจากราคาน้ำมันต่ำ มั่นใจเพิ่มสัดส่วนปลั๊กอินไฮบริดเป็น 15% ปีนี้

กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นตามเทคโนโลยีใหม่ แต่บีเอ็มดับเบิลยูก็จะเดินหน้าทำตลาดเครื่องยนต์ที่หลากหลายสำหรับประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ มองว่าตลาดรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดที่เติบโตขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากแรงกระตุ้นทางด้านภาษีน่าจะทำให้ตลาดเติบโต อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในประเทศไทยที่ไม่สูงมากนักก็ทำให้ตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ไม่ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วมากนัก

“เรามองไปที่ความต้องการของลูกค้ามากกว่า รถยนต์บางกลุ่มลูกค้าก็ยังมองว่าเครื่องยนต์ดีเซลอาจจะตอบสนองเรื่องการเดินทางไกลได้ดีกว่ารถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทยังทำตลาดเครื่องยนต์ที่หลากหลายควบคู่กันไปเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า”

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าในกลุ่มปลั๊กอิน ไฮบริดให้ครอบคลุมและเป็นทางเลือกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู ในกลุ่มซีรี่ส์ 3, 5, 7 และเอ็กซ์5 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า รวมถึงมินิที่มีแผนจะแนะนำคันทรีแมน ปลั๊กอิน ไฮบริด ในอนาคต

ทั้งนี้ เชื่อว่าสัดส่วนรถยนต์กลุ่มปลั๊กอิน ไฮบริด ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยจะปรับตัวเพิ่มเป็น 15% ในปีนี้ จากที่มีสัดส่วน 5% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการขยายสถานีชาร์จไฟเพิ่มจาก 5 แห่งเป็น 20 แห่งในปีนี้เช่นกัน

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่