กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงการ อายัดรถหรูจาก นิชคาร์ กรุ๊ป รวมทั้งสิ้นกว่า 122 คัน จากการสำแดงราคานำเข้าเท็จต่ำกว่าจริง 40% คาดทำรัฐเสียหายกว่า 2.4 พันล้านบาท
จากคดีบุกตรวจสอบ บริษัทนำเข้ารถหรู รถซูเปอร์คาร์ชื่อดัง นิชคาร์ ย่านเลียบทางมอเตอร์เวย์ เกี่ยวกับการสำแดงการเสียภาษีนำเข้า ในช่วงวันที่ 18 พ.ค ที่ผ่านมา วันนี้ กรมสอบคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงภาพรวมการบุกค้นขบวนการนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี
จากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 แห่ง สามารถอายัดรถยนต์ได้จำนวน 122 คัน ที่นำเข้าโดย บริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป หลังจากตรวจสอบเผยค่าความเสียจากขบวนการดังกล่าว ทำให้รัฐเสียหายจากการเรียกเก็บภาษีไม่ครบถ้วนถึง 2.4 พันล้านบาท
เฉลี่ยรถซูเปอร์คาร์จากบริษัทชำระภาษีขาด 10-18 ล้านบาทต่อคัน ผลมาจากการสำแแดงราคาเท็จไม่เกิน 40% ของราคาจริง ซึ่ง ดีเอสไอตรวจสอบย้อนหลังการนำเข้ารถยนต์ทุกกลุ่ม เพื่อเรียกเก็บภาษีคืนรัฐให้ครบถ้วน
กรณีการสำแดงเท็จ เช่น รถยนต์ลัมบอร์กินี่ จากบริษัท นิชคาร์ 1 คัน ราคาจากประเทศอิตาลี 2.86 แสนยูโร ตีเป็นเงินไทยราวๆ 12 ล้านบาท แต่เมื่อนำเข้ามาถึงประเทศไทยจะมีขบวนการจัดทำเอกสารสำแดงราคาเป็น 1.05 แสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งตีเป็นเงินไทยราวๆ 3.4 ล้านบาทและมาคำนวนกับภาษีรถหรูที่ 328% ทำให้รถลัมบอร์กินี่คันนั้นมีราคาเพียง 11 ล้านบาทเท่านั้น
ซึ่งหากคำนวนด้วยภาษีราคาตามจริง ที่ 12 ล้านบาท จะต้องเสียงภาษีในราคา 41 ล้านบาทเลยทีเดียว เท่ากับว่ารถลัมบอร์กินี่คันนี้เสียภาษีขาดไปเป็นจำนวน 30 ล้านบาท ดังนั้น ดีเอสไไอจึงต้องอายัดรถที่นำเข้าโดย นิชคาร์ เพราะหากปล่อยไปให้มีการซื้อขาย ผู้คครอบครองมือสุดท้ายจะต้องรับภาระการชำระค่าภาษีดังกล่าวนี้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามอาจมีปัญหาด้านการจัดเก็บข้อมูลและเอกสารของในบางประเทศที่เก็บข้อมูลย้อนหลังเพียง 5 ปีเท่านั้น และหากย้อนหลังไปทั้งหมดจะพบว่ามีการนำรถในลักษณะดังกล่าวเข้ามาเป็น 10,000 คันแล้ว
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น